เล่าถึงตรงนี้บอยเริ่มมีสีหน้าคลายกังวลพร้อมกับเผยยิ้มที่มุมปาก

“ลักษณะคนเสพกัญชามักชอบกินของหวาน แล้วจะมีกลิ่นโดยเฉพาะกลิ่นของกัญชา ยิ่งใครมีกลิ่นตัวแรง ๆ จะยิ่งเพิ่มความแรงของกลิ่นตัว แต่ลักษณะคนเสพยาบ้าจะดูไม่ค่อยออกนอกเสียจากสังเกตพฤติกรรม

“ตำรวจไม่เคยเข้ามาตรวจที่อพาร์ตเมนต์ แต่เราก็จะคอยระวังตัวอยู่ตลอด เช่นบางทีเรามองออกไปนอกระเบียงห้อง มีรถกระบะคันเดียวกันวิ่งวนไปวนมาหลาย ๆ รอบซึ่งผิดปรกติ เราก็เริ่มระวังตัว เก็บข้าวของให้เรียบร้อย

“เมื่อก่อนราคายาบ้าเม็ดละ ๒๕๐ บาท เดี๋ยวนี้อย่างต่ำ ๓๕๐ บาท บางคนเลิกเสพเพราะราคามันแพง เงินที่เราเอามาซื้อยาเสพส่วนมากเป็นเงินที่ได้จากการขายยาบ้า”

นัยน์ตาชายหนุ่มเริ่มแข็งกร้าวเมื่อถามถึงชีวิตช่วงที่ยังเป็นคนขายยาบ้า

“ผมทำสนุก ๆ มันตื่นเต้นดี ทำก็มีเงินใช้ อยากเสพยาก็ได้เสพ มาเริ่มขายอย่างจริงจังตอนเข้ามหาวิทยาลัยปี ๑ พอดีพี่ที่อยู่อุบลราชธานีมาเยี่ยมแล้วเอายาบ้ามาด้วย รวมทั้งทำเลที่นี่มันให้ด้วยก็เลยเริ่มเห็นลู่ทาง ตอนนั้นยาบ้า ๑ ล็อต (๒๐๐ เม็ด) ราคา ๖,๐๐๐ บาท เราเอามาขายเม็ดละ ๒๕๐ บาท ส่วนที่เป็นกำไรเราจะเอามาเสพเอง จากนั้นก็ทำมาเรื่อย ๆ พอมารู้จักเอเย่นต์เลยเป็นหนทางให้เราขายยาอย่างจริงจัง

“เวลาไปรับยาบ้ามาขายผมจะโทร. สั่งพี่ที่อุบลฯ เขาก็จะโทร. ไปสั่งคนที่ฝั่งลาวอีกที คืนก่อนวันนัดประมาณสี่ห้าทุ่มต้องเอาเงินไปให้เขาก่อน แล้วคนฝั่งลาวจะนัดเวลาและสถานที่ พอวันรุ่งขึ้นเราก็ไปรับของ ส่วนใหญ่จะนัดกันแถวอำเภอโขงเจียม เวลาไปเอาของเราต้องทำตัวให้เหมือนนักท่องเที่ยวมากที่สุด ต้องเปลี่ยนเอาป้ายทะเบียนรถกรุงเทพฯ ใส่แทน และใช้รถที่เครื่องยนต์แรง ๆ เผื่อสำหรับหลบหนี

“พอได้ของมาเราจะตรวจเช็กคุณภาพของยา แล้วเอาผ้าเทปพันสายไฟพันจนเป็นลูกกลม ๆ เล็กกว่ากล่องไม้ขีด ลูกหนึ่งประมาณ ๒๐๐ เม็ดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง ยอมเสียสัก ๕-๖ เม็ดที่หักเพื่อความปลอดภัย หลังจากไปรับของตามที่นัดหมายเราจะรีบกลับทันที ขับรถให้เร็วที่สุด เปิดกระจกทุกบานเพื่อเวลาโดนตรวจจะได้ทิ้งของทัน พอถึงตัวเมืองอุบลฯ เราก็แยกย้ายกัน ผมจะรีบมาขึ้นรถที่สถานีขนส่ง ถ้าได้ขึ้นรถแล้วมั่นใจว่าปลอดภัยไปแล้วกว่า ๘๐ % แต่ต้องเป็นรถปรับอากาศชั้นดีเท่านั้นจึงจะปลอดภัย พอมาถึงอพาร์ตเมนต์ที่กรุงเทพฯ เราจะบรรจุยาใส่ห่อไว้ หลังจากนั้นก็จะขายกันในห้องหรือเอาออกไปให้ข้างนอกบ้างสำหรับคนที่ไว้ใจได้ โดยมากจะขายให้นักศึกษาที่อยู่ในอพาร์ตเมนต์หรือหอพัก

“ราคายาบ้า คนฝั่งลาวจะรับมาจากว้าแดงเม็ดละ ๕ บาท ขายให้เราเม็ดละ ๓๕ บาท เราเอามาขายที่กรุงเทพฯ เม็ดละ ๒๕๐ บาท เดี๋ยวนี้ตกเม็ดละ ๓๕๐ บาท ผมจะเอาส่วนที่เป็นกำไรมาซื้อยาเสพ หรือเอาเม็ดยาบ้าที่หักระหว่างลำเลียงมาเสพ

“ยาบ้าที่นักเสพนิยมสีจะออกแดงไม่ส้มมากเกินไป ตัวบล็อกอักษร wy ชัด ไม่แตก เรียกว่า ไทเกอร์ กลิ่นจะหอม ส่วนยาบ้าที่มีสีน้ำตาล เนื้อยาเละ ๆ จะมาจากทางเขมร จะไม่เหมือนกับที่มาจากว้าแดง คือฤทธิ์ยาไม่ค่อยมีปฏิกิริยา และมีการปรับแต่งกลิ่นเป็นกลิ่นช็อกโกแลตและรสต่าง ๆ มาเรื่อย

“เดี๋ยวนี้นอกจากมีสายตำรวจที่คอยจับตามองคนขายแล้วยังมีพวกนักเลงที่คอยปล้นยาบ้าจากคนขาย ตอนแรกจะทำทีเป็นซื้อก่อน พอนานเข้าจะพาพวกมาข่มขู่เอายาบ้า เดี๋ยวนี้ถ้าคิดจะขายยาบ้าผมว่าลำบาก ปล่อยได้แต่พวกที่รู้จักกันเท่านั้น คนอื่นเราไม่กล้าเสี่ยง คนไหนทำดีกับเราก็จะดีด้วย แต่คนไหนหักหลังเราจะไม่กลับไปยุ่ง

“ถึงวันนี้ ถ้าผมเก็บเงินดี ๆ ก็คงจะได้มากมาย แต่ส่วนมากได้เงินมาก็ใช้ไปกับการเที่ยวและกินเหล้าเสียมากกว่า”
ชีวิตหลังกำแพงศูนย์บำบัด

เมื่อ ๓ ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยือนผู้คนที่อยู่หลังกำแพงรั้วของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ วันนี้ผมกลับมาหาพวกเขาอีกครั้ง ยังไม่ทันเดินผ่านช่องรั้วชั้นที่ ๑ ก็ได้รับการต้อนรับจากชายวัยกลางคนที่ยืนเกาะรั้วชั้นที่ ๒ เขายิ้มให้ทั้ง ๆ แก้มเปื้อนคราบน้ำลายไหลหยดย้อยไปจนถึงแผ่นอก เมื่อผ่านประตูรั้วชั้นที่ ๒ หมอในชุดเสื้อกาวน์สีขาวกล่าวทักทายพร้อมกับแนะนำคนไข้ที่ผมต้องการสัมภาษณ์ให้รู้จัก ผมกล่าวทักทายเขาและพยายามเกลี้ยกล่อม

“ผมไม่ให้สัมภาษณ์” คนไข้กล่าวพร้อมกับส่ายหน้าหนี แต่กระนั้นผมก็ได้พูดคุยกับคนไข้ที่เข้ามารับการบำบัดอาการติดยาเสพติดจนได้

เอ (นามสมมุติ) เด็กสาวในชุดผู้ป่วยดูไม่มีทีท่าว่าจะเป็นผู้ติดยาเสพติด กล่าวถึงที่มาก่อนจะเข้ามาอยู่ในศูนย์บำบัดแห่งนี้

“ก่อนหน้านี้เราถูกตำรวจจับและถูกคุมตัวอยู่ที่สถานพินิจฯ จากนั้นเจ้าพนักงานคุมประพฤติก็พามาที่นี่เพื่อบำบัดรักษาอาการติดยาเสพติด”

เมื่อถามถึงปัญหาที่ทำให้เธอหันเข้าหายาเสพติด เสียงเด็กสาวเริ่มดังขึ้นพร้อมกับใช้มือปัดผมที่บดบังแววตาที่พยายามซ่อนเร้น

“พ่อแม่แยกทางกัน เราเริ่มเสพยาบ้ามาตั้งแต่อยู่ ม. ๒ ตอนนั้นยังเสพไม่มากเท่ากับตอนที่แม่พาไปอยู่กับพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงเป็นคนที่เข้มงวดมาก รู้สึกว่าเข้ากับเขาไม่ได้ เขาไม่เหมือนพ่อเรา บางทีเราก็ต่อต้านอยู่บ่อยครั้ง แม่ก็เลยให้ออกมาอยู่หอพัก ตอนนั้นเริ่มเข้าเรียน ปวช. ปี ๑ แล้ว

“พอมาอยู่หอพักก็ยังเสพยาบ้าอยู่ แต่เริ่มเสพหนักตอนที่ติดต่อกับแม่ที่อยู่ต่างประเทศไม่ได้ โดยเพิ่มปริมาณจากวันละ ๒ เม็ดเป็นวันละ ๖-๗ เม็ด ตอนที่ใช้รู้สึกดี เหมือนกับเราอยู่อีกโลกหนึ่ง ไม่ต้องคิดถึงแม่ ทางหอพักก็ไม่รู้เพราะไม่มีการตรวจ บางทีมันก็ช่วยเราได้เวลาอาจารย์สั่งงานมาก ๆ ทำให้เขียนงานเสร็จเร็วกว่าตอนที่ไม่ได้เสพ และก็ไม่ได้ทำให้การเรียนเสียหาย เพราะเราจะใช้เวลาช่วงบ่ายเสพยา ๖-๗ เม็ดอยู่ได้ถึงเช้าหรืออีกครึ่งวันของวันรุ่งขึ้น เราก็ยังไปเรียนได้ มีเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ๔-๕ คนเสพด้วยกันเป็นประจำ”

เมื่อถามถึงการมาอยู่ในพื้นที่ซึ่งถูกจำกัดในวันนี้ เด็กสาวระบายยิ้มพร้อมกับเสียงหัวเราะ

“มาอยู่ที่นี่ไม่รู้สึกอึดอัด กลับรู้สึกโล่ง ๆ มากกว่า ทั้งที่ตอนแรกก็ไม่อยากมา ไม่ชอบสถานที่กักบริเวณ แต่พอมาอยู่แล้วเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ก็รู้สึกดี มาอยู่ที่นี่ได้เรียนรู้หลายอย่างในเรื่องของยาเสพติด พี่ ๆ เขาจะสอนว่ายาเสพติดไม่ดีอย่างไร ทำให้เรามีความรู้มากขึ้นจากตอนแรกที่เสพไม่มีความรู้เรื่องยาเสพติดเลย และอยู่ที่นี่ยังไม่มีเพื่อนมาชักชวนให้วอกแวก ตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกเวลาเหนื่อยเราก็จะมานั่งคิดว่าเราอายุแค่นี้ทำไมต้องมาเหนื่อยขนาดนี้ ทั้งเรื่องพ่อแม่ รวมทั้งเรื่องงาน คนอื่นไม่เห็นเขาเป็นอย่างเรา กลายเป็นทำให้เราเครียดเลยใช้ยาเพื่อเป็นหนทางระบายความเครียด”

หลังจากที่หญิงสาวเข้ามารับการบำบัด เธอก็ได้รับการติดต่อจากแม่ที่ขาดการติดต่อกันไปนาน

“ตอนแรกไม่อยากให้แม่รู้เพราะกลัวเขาจะโกรธ แต่หลังจากที่เรามาบำบัดแม่ก็ติดต่อมาหาเรามากขึ้น ทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ได้ทิ้งเราอย่างที่เราคิด รู้สึกดีที่แม่ไม่โกรธ แม่ยังปลอบใจเราด้วย ถ้าออกไปก็จะกลับไปเริ่มเรียนใหม่ แต่แม่ยังไม่ไว้ใจเราเต็มที่ คงให้น้าคอยดูแลเรา เพราะแม่อยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถดูแลเราอย่างเต็มที่ ความรู้สึกจริงๆ เราไม่เคยโกรธแม่ เพียงแต่น้อยใจที่แม่ไม่สนใจเรา”

…………………………………………………………………………………..

ท่ามกลางสังคมที่แก่งแย่งแข่งขันในมหานคร หอพักหรืออพาร์ตเมนต์คงไม่ต่างอะไรกับบ้านที่ผู้คนมากหลายต่างมุ่งหวังอยากจะสร้างความสุขให้แก่ตนเอง นักเสพยาก็เช่นกัน โลกในกรอบสี่เหลี่ยมไม่กี่ตารางเมตรนั้น อาจเป็นโลกที่เขาหรือเธอหลีกเร้นจากความทุกข์ไปหาสิ่งที่คิดว่าเป็นความสุข หากแต่ในความเป็นจริงแล้วมันกลับเป็นความสุขจอมปลอมเพียงในโลกฝัน แต่เมื่อไรเล่าที่เขาหรือเธอจะพบว่า ยาเสพติดคือภัยร้ายทำลายชีวิตให้จมดิ่งลงสู่นรกอันมืดดำ…

————————————————————–