มิติคู่ขนาน
บัญชา ธนบุญสมบัติ
buncha2509@gmail.com,
www.facebook.com/buncha2509

ซาดิสต์  vs มาโซคิสต์ คู่แท้...พิสดาร ?

อันว่ารสนิยมของคนเราในเรื่องหนึ่งๆ นั้น บางทีก็เหมือนกัน แต่บ่อยครั้งก็มักต่างกัน และหากด่วนติดป้ายตัดสินถูก-ผิด ดี-เลว โดยใช้หลักการเสียงข้างมาก (คือคนส่วนใหญ่เป็นอย่างไร) หรือหลักกู (คือรสนิยมของข้าพเจ้าเลอเลิศประเสริฐสุด) แล้วไซร้ ก็อาจเกิดอคติได้ไม่ยาก

คราวนี้ผมจึงขอชวนคุยเรื่องแนวหวาดเสียวอยู่บ้าง นั่นคือ ซาดิสต์ (sadist) และมาโซคิสต์ (masochist) ในแง่มุมทางเพศ นั่นคือขอเน้นเฉพาะพฤติกรรมซาดิสม์ทางเพศ (sexual sadism) และมาโซคิสม์ทางเพศ (sexual masochism) เป็นหลัก เมื่อได้รู้แล้ว คุณผู้อ่านจะตัดสินอย่างไรนั้น ก็สุดแล้วแต่

ใครๆ ก็รู้ว่า ผู้ที่เป็นซาดิสต์นั้นจะมีความสุขและอารมณ์ตื่นเต้นทางเพศจากการเห็น หรือกระทำให้ “ผู้อื่น” ได้รับความเจ็บปวดทางกาย ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือถูกทำให้อับอาย

คำว่าผู้อื่นนี้อาจเป็นได้ทั้ง “เหยื่อ” ที่ถูกล่อลวงหรือถูกบังคับให้ต้องทำตาม “ผู้ให้บริการ” ที่ได้รับการว่าจ้างให้ยอมทำตาม “คู่สมรส” ที่ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ไปจนถึง “คู่ขา” ที่สมยอมกันโดยสมัครใจ (กรณีสุดท้ายนี่คือ มาโซคิสต์ ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป)

ส่วนมาโซคิสต์นั้นกลับกัน กล่าวคือเขาหรือเธอจะมีความสุขและอารมณ์ตื่นเต้นทางเพศเมื่อตนเองได้รับความเจ็บปวดทางกาย ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม หรือถูกทำให้อับอาย

น่าสนใจว่ามาโซคิสต์อาจกระทำต่อตนเอง หรือมีผู้อื่นเป็นคนกระทำก็ได้

ในกรณีกระทำต่อตนเอง มาโซคิสต์จะสำเร็จความใคร่โดยตนเอง (masturbation) พร้อมกันไปด้วย  ถ้าอย่างเบาๆ นุ่มๆ ก็อาจจินตนาการว่าถูกตบหน้าขณะกำลังสำเร็จความใคร่  ถ้าอาการพิสดารอย่างสุดโต่ง เช่น มีความสุขทางเพศจากการขาดอากาศหายใจ (hypoxyphilia) ก็เคยมีกรณีมาโซคิสต์ผูกมัดตัวเองและทำให้ตนเองหายใจไม่ออก ซึ่งเคยรอดชีวิตมาหลายครั้ง (มีผู้เข้าไปช่วยไว้ทัน) แต่ก็ไม่รอดในครั้งสุดท้าย

ในกรณีผู้อื่นเป็นคนกระทำต่อมาโซคิสต์  ผู้อื่นอาจเป็นซาดิสต์ หรือเป็นผู้ที่ได้รับการขอร้อง หรือแม้แต่ได้รับการว่าจ้างให้ทำก็เป็นไปได้

ในต่างประเทศมีธุรกิจให้บริการความสุขสำราญทางเพศโดยรับสร้างความเจ็บปวด (ทั้งทางกายและจิตใจ) ให้แก่ลูกค้ามานานแล้ว ลองฟังคำให้สัมภาษณ์ (บางส่วน) จากสุภาพสตรีอายุ ๓๔ ปีที่ทำธุรกิจนี้ (จากงานวิจัยของ Janus & Janus เมื่อปี ๑๙๙๓-อ้างจากหนังสือ Fundamentals of Abnormal Psychology 5th Edition เขียนโดย Ronald J. Comer หน้า ๔๒๖)

“…ผู้หญิงคนอื่นๆ อาจใช้เวลาถึงหนึ่งหรือแม้กระทั่งสองชั่วโมงในการทำให้ผู้ชายพวกนี้รู้สึกว่าตนเองได้รับการบำบัด แต่ฉันทำได้ในเวลาเพียงแค่ ๒๐ นาที…จงจำไว้ว่า คนเหล่านี้เป็นนักธุรกิจ และพวกเขาไม่ได้แค่ซื้อเวลาของฉัน แต่ยังต้องกลับไปทำงาน (ให้ทัน) ดังนั้นเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ” และ “ฉันทำสิ่งที่ได้ผลดีและรวดเร็ว เช่น เสียบเข็มหมุดที่หัวนม หรือปักเข็มที่ลูกอัณฑะ บางคนต้องเห็นเลือดตัวเองถึงจะรู้สึกเร้าอารมณ์…” (อูยยยย…แค่นี้ก็พอเห็นภาพนะครับ)

ส่วนในบ้านเราจะมีธุรกิจแนวนี้หรือไม่ ผมไม่ทราบ เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ตรง (และไม่คิดอยากจะมีอีกด้วย – ขอยืนยัน ๑,๐๐๐ เปอร์เซ็นต์ !) …แหะ…แหะ

พฤติกรรมซาดิสม์-มาโซคิสม์มีตั้งแต่เบาๆ ไปจนถึงหนักหนาสาหัส เช่น บังคับให้คลาน จับขังกรง ผูกมัดมือเท้า ปิดตา ทุบตี เฆี่ยน เผา ข่มขืนจนถึงฆ่า

อ่านถึงตรงนี้ หลายคน (เกือบทุกคน ?) อาจเกิดทัศนคติว่า ซาดิสต์หรือมาโซคิสต์จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยจิตแพทย์ แต่ในทางจิตเวชมีเกณฑ์วินิจฉัยว่า ซาดิสต์หรือมาโซคิสต์ควรจะเข้าข่ายรับการรักษาเมื่อใด  กล่าวคือ ในกรณีของซาดิสต์ เขาหรือเธอได้กระทำต่อผู้ที่ไม่ยินยอม หรือว่าเกิดอาการหดหู่เศร้าหมอง มีปัญหาสัมพันธภาพกับผู้อื่น  ส่วนในกรณีของมาโซคิสต์นั้น เขาหรือเธอเกิดรู้สึกหดหู่เศร้าหมอง รู้สึกว่าตนเองบกพร่องทั้งในสังคม อาชีพการงานหรือกิจกรรมอื่นๆ

สมมุติกรณี “ดี” สุดๆ คือสามีเป็นซาดิสต์ และภรรยาเป็นมาโซคิสต์ ทั้งคู่ก็จะสนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมพิสดารโดยไม่เดือดร้อนใคร ขณะที่หน้าที่การงานและพฤติกรรมอื่นๆ ของทั้งคู่ก็ปรกติดี  แบบนี้จิตแพทย์จะไม่เข้าไปก้าวก่าย และอาจถือเป็นบุพเพสันนิวาสที่ทั้งคู่ได้ “ครองรัก” กันด้วยซ้ำ !

พฤติกรรมของคู่ซาดิสต์-มาโซคิสต์เช่นนี้ มักเรียกว่า sadomasochism แปลว่า พฤติกรรมความเจ็บปวดนิยม และน่ารู้ไว้ด้วยว่าทั้งคู่มักเล่นบทบาทสมมุติที่สอดคล้องกับพฤติกรรมในเรื่องราวหลัก (theme) เช่น ซาดิสต์เล่นเป็นนาย มาโซคิสต์เป็นทาส  ซาดิสต์เป็นครูจอมเฮี้ยบ มาโซคิสต์เป็นเด็กดื้อที่ต้องถูกลงโทษ  กล่าวคือซาดิสต์เล่นบทบาทความเหนือกว่า (domination) ส่วนมาโซคิสต์เล่นบทบาทความยอมรับ (submission)

บทบาทในพฤติกรรมทางเพศลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับคู่ที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรม เช่น โซ่ แส้ ปลอกคอ สายจูง ฯลฯ ไม่ได้ใช้ทำให้เจ็บปวดจริงๆ จังๆ แต่ใช้ในเชิงสัญลักษณ์เป็นหลัก  ในทางจิตเวชจึงระบุว่าต้องแยกแยะความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมซาดิสม์-มาโซคิสม์ (sadomasochistic behavior) แบบเบาะๆ สมยอมกันเช่นนี้ (ซึ่งไม่ต้องเข้ารับการตรวจรักษา) กับพฤติกรรมซาดิสม์ หรือมาโซคิสม์ ที่มีแนวโน้มทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น

อะไรหนอเป็นสาเหตุของพฤติกรรมซาดิสม์และมาโซคิสม์ ?

ในปัจจุบันยังไม่มีแนวคิดใดๆ ที่ได้รับการยอมรับว่าอธิบายครอบคลุมได้ทุกกรณี  แต่มีมุมมองต่างๆ จากสำนักจิตวิทยา ตัวอย่างเช่น นักพฤติกรรมนิยมเสนอว่า พฤติกรรมซาดิสม์อาจเกิดจากทั้งการที่ผู้นั้น (โดยเฉพาะเด็กหรือวัยรุ่น) เห็นตัวอย่างพฤติกรรมจากสื่อแล้วปฏิบัติตาม เรียกว่า การมีตัวแบบ (modeling) หรืออาจเกิดจากความบังเอิญพ้องกันของการทำให้ผู้อื่นรู้สึกเจ็บปวดกับการกระตุ้นทางเพศ ทำให้ต่อมาเมื่อทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดอีก ก็เกิดรู้สึกเร้าอารมณ์ได้ เรียกว่า การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก (classical conditioning)

น่าสนใจว่า ในกรณีของพฤติกรรมมาโซคิสม์นั้น มีหลายกรณีอธิบายได้ด้วยการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิกนี้ เช่น เด็กวัยรุ่นแขนหักได้รับการประคองไว้โดยพยาบาลสาวแสนเซ็กซี่ ขณะที่แพทย์กำลังรักษาแขนของเขาโดยไม่ได้ใช้ยาสลบ ต่อมาเด็กคนนี้เกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นเมื่อตนเองได้รับความเจ็บปวด เป็นต้น

ที่เล่ามานี้เป็นเพียงบางแง่มุมซึ่งอาจช่วยให้เราเข้าใจเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกมากขึ้นอีกนิด

หากคุณผู้อ่านสนใจศึกษาต่อให้กว้างขวางและลุ่มลึกขึ้น บางทีสิ่งที่ดูน่าประหวั่นพรั่นพรึง อาจซ่อนความละเอียดอ่อนน่าฉงนไว้อย่างแยบยล  ดังเช่นกรณีของซาดิสต์-มาโซคิสต์นี้ก็เป็นได้

ประตู ทะลุมิติ

ขอแนะนำหนังสือ

  • ความผิดปกติทางเพศ เขียนโดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์สมภพ เรืองตระกูล คณะแพทยศาสตร์ ศิริราพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  • และ มนุษย์ : จิตวิทยาทางเพศ เขียนโดย รศ.รัศจี นพเกตุ ภาควิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • สำหรับเว็บขอแนะนำ Encyclopedia of Mental Disorders ที่ http://www.minddisorders.com/Py-Z/Sexual-sadism.html และ http://www.minddisorders.com/Py-Z/Sexual-masochism.html