เก็บตกสาระ แนะนำสื่อภาพยนตร์ และสื่อแขนงอื่นๆ จากที่เห็นและเป็นไป ในและนอกกระแส


it01

It หนังสยองขวัญที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่องดังของ สตีเฟน คิง นักเขียนขวัญใจชาวอเมริกา เปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยรายได้เฉพาะสหรัฐอเมริกากว่า ๑๒๓ ล้านเหรียญฯ ไม่เพียงกลายเป็นหนังที่ดัดแปลงจากนิยายของสตีเฟ่น คิงที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุด ยังเป็นหนังสยองขวัญเรตอาร์ที่ทำเงินเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล หนังเปิดตัวสูงสุดตลอดกาลในเดือนกันยายนและฤดูใบไม้ร่วงอีกด้วย (สำหรับในหนังกลุ่มหนังเรตอาร์ หนังทำรายได้เปิดตัวสูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับ ๒ รองจาก Deadpool เท่านั้น

ผลงานกำกับของ อันเดรส มุสชิเอตติ(Mama) สร้างโดยวอร์เนอร์ บราเธอร์ส โดยถูกแบ่งเป็นสองภาค คือภาคเด็กกับภาคผู้ใหญ่ ว่าด้วยเหตุสะเทือนขวัญในเมืองเดอรี่ ของรัฐเมน ที่จะมีเด็กหายสาปสูญไปทุกๆ ๓๐ ปีจากปีศาจที่สามารถแปลงกายสิ่งที่เด็กๆ กลัวนั่นคือตัวตลกเพนนีไวส์ โดยมีเด็กนอกคอกกลุ่มหนึ่งพยายามหาวิธีต่อสู้กับมัน

เดิมตัวหนังได้รับการคาดการณ์ว่าจะทำเงินสูงมากอยู่แล้วสำหรับหนังสยองขวัญตั้งแต่เมื่อตอนที่ปล่อยตัวอย่างคลิปทางออนไลน์ เพราะทำลายสถิติยอดวิวมากที่สุดใน ๒๔ ชั่วโมง แต่ก็คาดว่าจะทำรายได้เปิดตัวรายได้ ๕๐-๘๐ ล้านเหรียญฯ เท่านั้น

It ยังทำลายอาถรรพ์ที่หลายคนเชื่อจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นพายุเฮอริเคนที่ทำให้หลายเมืองประสบอุทกภัยจนไม่สามารถไปดูหนังได้ การเปิดฤดูกาลของกีฬาอเมริกันฟุตบอล จะเป็นตัวถ่วงให้รายได้ของหนังน้อยกว่าที่คาด (หรือในอีกด้าน หากไม่มีเหตุการณ์พายุเฮอริเคนถล่มรัฐเท็กซัส It จะทำเงินมากกว่านี้เสียอีก) ซึ่งแน่นอนว่าความสำเร็จครั้งนี้จะทำให้งานของ สตีเฟน คิง ซึ่งเป็นนักเขียนชื่อดังที่นานๆ ครั้งจะมีหนังที่ดัดแปลงจากนิยายของเขาทำเงินสักที ให้กลายเป็นของร้อนที่ถูกนำมาสร้างเพิ่มอีกอย่างแน่นอน

ด้วยสถิติน่าทึ่งดังกล่าวนักวิเคราะห์และคอลัมนิสต์ต่างๆ ประเมินผลสำเร็จของ It ไว้หลายประการ

it02

หนังซัมเมอร์ปีนี้รายได้แย่

ระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมเป็นช่วงการฉายหนังซัมเมอร์ ช่วงเวลาที่เด็กปิดเทอมในอเมริกา และถูกวางโปรแกรมสำหรับฉายหนังฟอร์มยักษ์เน้นความบันเทิงในบ๊อกซ์ออฟฟิศมาโดยตลอด แต่ในปีนี้หนังซัมเมอร์ทำเงินต่ำมาก โดยมีรายได้น้อยกว่าปีที่แล้วถึง ๖.๕ % และเป็นรายได้ที่ต่ำสุดในรอบสิบปี ทำให้หลายคนวิเคราะห์กันว่าจะเป็นสัญญาณถึงจุดจบของโรงภาพยนตร์

เฉพาะเดือนสิงหาคมก่อน It ออกฉายนั้น ไม่มีหนังที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำตลอดทั้งเดือนเลย ช่วงระยะที่ว่างเว้นนานนั้นส่งผลให้คนตั้งตารอคอยหนังที่พวกเขาอยากดูมากขึ้น

“มีการเขียนถึงการล่มสลายของบ๊อกซ์ออฟฟิศมากมาย แทบจะเรียกว่าทุกสองสามปีก็จะมีบทความลักษณะนี้ออกมา แต่ถ้ามีหนังดีออกฉาย คนดูก็พร้อมจะอ้าแขนรับและตื่นเต้นสนุกไปกับมัน ถ้าเราสร้างแต่หนังที่พวกเขาไม่สนใจ คนดูก็จะหนีจากโรง และนี่เป็นหนังที่พวกเขาอยากดู” เจฟฟ์ โกลด์สไตน์ ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายหนังในประเทศของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส กล่าว

บรรยากาศถวิลหาอดีตยุค ๘๐s

หนังสร้างจากหนึ่งในนิยายของ สตีเฟ่น คิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเล่มหนึ่งซึ่งจำหน่ายตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๘๖ นิยายเคยถูกสร้างเป็นมินิซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ในปี ค.ศ.๑๙๙๐ โดยตัวหนังปรับเรื่องราวในนิยายซึ่งเป็นยุคช่วง ๑๙๕๐s ให้กลายเป็นบรรยากาศยุค ๘๐s แทนจึงเข้าถึงผู้ชมได้ดีกว่า เนื้อหาไม่ได้มีแค่เรื่องสยองขวัญ หากแต่มีบรรยากาศของหนังชีวิตในบรรยากาศระลึกถึงอดีตผ่านตัวละครกลุ่มเด็ก ประจวบเหมาะกับความสำเร็จของซีรี่ส์ดังทางเน็ตฟลิกซ์อย่าง Stranger Things เมื่อปีก่อนที่ตัวซีรี่ส์เองได้รับอิทธิพลจากนิยายของ สตีเฟ่น คิง ไม่น้อยจึงช่วยปลุกกระแสดังกล่าวขึ้นมา หนังและซีรี่ส์เองยังมีดาราเด็กที่แสดงร่วมกันอย่าง ฟิน วูลฟ์ฮาร์ทอีกด้วย

ความน่าสนใจของตัวหนังเอง

It ไม่ใช่หนังที่ดัดแปลงจากนิยายของ สตีเฟ่น คิง เพียงเรื่องเดียว ก่อนหน้า Dark Tower หนังแฟนตาซีที่สร้างงานของคิง ได้รับผลตอบรับไม่ดีทั้งรายได้และคำวิจารณ์ และไม่ใช่หนังสยองขวัญที่เพิ่งฉายในปีนี้ มีหนังหลายเรื่องที่ล้มเหลวด้านรายได้ อาทิ Wish Upon , The Bye Bye Man หากแต่เพราะมันมีความโดดเด่นแตกต่างตั้งแต่ตัวหนังซึ่งได้รับคำชม และการทำการตลาดที่ประสบความสำเร็จจนทำให้แฟนเดนตายของ สตีเฟ่น คิง ตอบรับเป็นอย่างดีจากตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมา

“ผู้กำกับได้สร้างงานที่น่าสนใจ แล้วฝ่ายการตลาดของเราเพียงแค่เน้นและวางแผนให้มันเป็นพิเศษเท่านั้น” โกลด์สไตน์กล่าว

หนังสยองขวัญกลายเป็นเทรนด์การดูในโรง

ในขณะที่เราสามารถดูซีรี่ส์ดราม่าชั้นดีได้จากบริการสตรีมมิ่งอย่าง Netflix สามารถดูซีรีส์ที่มีความรุนแรงระดับเรตอาร์ยอดนิยมจาก Game of Thrones ขณะที่ความตื่นตาตื่นใจด้านเทคนิคพิเศษด้านภาพก็ดูเหมือนจะถูกยึดครองโดยหนังซุปเปอร์ฮีโร่ อะไรอีกที่จะสามารถดึงดูดคนให้เข้าโรงได้

คำตอบจากความสำเร็จของหนังสยองขวัญที่ต่างทำรายได้น่าประทับใจ ภายใต้ทุนสร้างที่ต่ำหรือไม่สูงมากนัก เฉพาะแค่ในปีนี้ก็มีงานอย่าง Get Out, Split, Annabell: Creation ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคนอยากเข้าโรงหนังมาเพื่อสัมผัสความกลัวจากหนังสยองขวัญ แต่นั่นหมายความว่าหนังเหล่านั้นมีจุดขายที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็น สารทางการเมือง(Get Out), การหักมุม(Split) หรือหนังภาคต่อที่ยังเป็นที่สนใจ( Annabell: Creation)

ว่ากันว่าด้วยกฎการชมในโรงภาพยนตร์ที่เคร่งครัดมากขึ้นในสหรัฐอเมริกา เช่นในโรงเครือ Alamo ทำให้ผู้ชมเกิดการถกเถียงกันระหว่างคนดูที่รักษามารยาท กับคนดูที่อยากจะทำอะไรก็ได้ตามใจ แต่หนังสยองขวัญดูจะยังเป็นงานที่เหมาะอย่างยิ่งกับการชมแบบมหรสพ จากปฏิกิรยาร่วมของคนดูในโรงที่แสดงออกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกรีดร้อง บ่นพึมพำ หรือตะโกนห้ามตัวละคร ต่างจากหนังประเภทอื่น

it03

“สังคมแห่งความกลัว” และ “การร่วมใจกันสู้” เนื้อหาที่โดนใจคนอเมริกา

การสร้างสังคมแห่งความกลัวในชุมชนคือประเด็นของหนังที่โดนใจผู้ชมชาวอเมริกัน ไม่ต่างกับภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ และแม้จะเป็นหนังสยองขวัญ แต่ It ได้ให้ความหวังและปลดปล่อยความรู้สึกของคนดูไปด้วย โดยมีกลุ่มเด็กต่างบุคลิก และที่มาเป็นเสมือนตัวแทนของคนอเมริกาที่รวมตัวกันต่อสู้กับปีศาจร้ายอย่าง ตัวตลกเพนนีไวส์ ซึ่งใช้ความกลัว ความเกลียดชังมาแบ่งแยก ควบคุม เอาชนะผู้คนในเมืองเดอรี่

“เกือบปีได้แล้วที่ผู้คนสองขั้วโจมตีใส่กัน ฉันไม่รู้หรอกค่ะว่าว่าใครหรือแนวคิดด้านไหนในทางการเมืองที่ดีจริง เหมือนสถานการณ์ประเทศที่เราถูกกระทำซ้ำๆ และทันทีที่คุณเห็นเด็กๆ เหล่านั้นที่เป็นเสมือนตัวแทนของเรามากๆ พวกเขาสู้ด้วยความรักและความสามัคคี และชนะปีศาจได้ สุดยอดไปเลย” บาร์บาร่า มุสชิเอติ พี่สาวของผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างกล่าว

  • http://ew.com/movies/2017/09/11/stephen-king-it-pennywise-vs-the-losers/
  • http://fortune.com/2017/09/11/it-box-office-record-hollywood-horror/
  • https://www.vanityfair.com/hollywood/2017/09/it-box-office-stephen-king-2017-horror-communal-pleasure
  • https://www.theguardian.com/film/2017/sep/11/it-breaks-horror-record-us-box-office-stephen-king-skarsgard-clown