ผีสางเทวดา เกร็ดเรื่องราวความเชื่อผีสาง เทวดา ในวัฒนธรรมไทยแต่อดีต


surya mandala

จาก “สูรยะ” หรือพระอาทิตย์ เทวดาฮินดูของแขก ต่อมาก็ถูก “จับบวช” ให้กลายเป็น “เทวดาพุทธ” ไปด้วย คือเป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ ที่โคจรรอบเขาพระสุเมรุ ตรงข้ามกับพระจันทร์

ตามคติสุเมรุจักรวาลอย่างไทยๆ บ่อยครั้งมักแสดงภาพพระอาทิตย์เป็นวงกลมสีแดง ข้างในมีรูปราชรถ เทียมด้วยสิงห์ คืออาศัยแรงของ “สิงห์” มาลากรถ ซึ่งก็เป็นรูปแบบสิงห์อย่างภาพวาดไทยๆ เหมือนที่ข้างขวดโซดา

บนรถนั้น มีรูปเทวดา หมายถึงตัวของพระอาทิตย์เอง บางครั้งที่ด้านหน้าจะมีสารถี คืออรุณเทพบุตรด้วย แต่บางแห่งก็อาจไม่มี

ตัวอย่างของภาพรถพระอาทิตย์ทำนองนี้ที่ใหญ่โตแลเห็นได้เด่นชัดที่สุด คือหน้าบันพระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม ด้านทิศตะวันออก แต่ช่างสร้างองค์ประกอบให้สมมาตร จึงมีเทวดาบริวารสององค์กับฉัตรสองคัน ขนาบซ้ายขวาพระอาทิตย์ไว้

รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนัง ฉากสุเมรุจักรวาลที่ด้านหลังพระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถ เราก็มักพบเห็นรูปพระอาทิตย์ที่วาดแบบนี้บ่อยๆ

ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานตราสุริยมณฑล คือรูปรถพระอาทิตย์ในวงกลม ให้แก่ “สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่” คือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) ผู้เป็นพี่ และพระราชทานตราจันทรมณฑล (พระจันทร์) แก่ “สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย” ผู้เป็นน้อง คือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัด บุนนาค)

ในระบบสัญลักษณ์ของสุเมรุจักรวาล จึงดูเหมือนว่าพระมหากษัตริย์ผู้ทรงไว้ซึ่งพระราชลัญจกร (ตราประทับประจำพระองค์) อันสื่อความหมายถึงพระอินทร์ ผู้เป็นเจ้าแห่งเขาพระสุเมรุ เช่นพระราชลัญจกรไอยราพต ทรงมีขุนนางชั้นผู้ใหญ่ระดับสมเด็จเจ้าพระยาทั้งสององค์ เป็นประดุจพระอาทิตย์พระจันทร์ที่โคจรอยู่โดยรอบ

ล่วงมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาบุตรชายคนใหญ่ของ “สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่” ขึ้นเป็น “สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์” (ช่วง บุนนาค) ราชทินนามนี้ก็มีความหมายถึงพระอาทิตย์ เท่ากับเป็นการสืบสาย “สุริยวงศ์” ผู้ทรงไว้ซึ่งตราสุริยมณฑล

ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานตราสุริยมณฑล หรือตรารูปรถพระอาทิตย์เทียมสิงห์ในวงกลมสีแดง ให้ตกทอดมาเป็นตราประจำพระองค์ของพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้มีพระนามเดิมแต่เมื่อแรกประสูติว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์

กรมหลวงชุมพรฯ ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาโหมด ผู้เป็น “หลานปู่” ของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์

และ “อาภากร” นั้น ก็แปลว่าพระอาทิตย์ เช่นกัน