เรื่องและภาพ วิศรุต แสนคำ
กิจกรรมทุกเช้าของรินกิ คือการเทินตะกร้าถ่านหินหนักกว่า ๗ กิโลกรัมบนหัวและเดินจากเหมืองกลับไปยังบ้าน
* บัจจี - बच्ची
ภาษาฮินดี แปลว่า เด็กผู้หญิง
เธอใช้มือซ้ายล้วงหมากฝรั่งที่แอบซุกในกระเป๋าเข้าปากเคี้ยว ส่วนมือขวากุมมือเพื่อนวัยเดียวกันกระโดดโลดเต้นไปตามทาง บนภูเขาหัวโล้นดำทะมึนที่ถูกเปิดหน้าดินเพื่อทำเหมือง ขณะสองเท้าก้าวเดินมุ่งหน้าสู่โรงเรียน เธอและเพื่อนพ่นลมจากปากเป่าขยายหมากฝรั่งสีชมพูอ่อนอวดล้อกัน
หมากฝรั่งสีชมพูราคาเพียงไม่กี่รูปีเป็นความสุขอย่างหนึ่งของเธอหลังตรากตรำทำงานหนักมาเมื่อเช้า
หกโมงเช้าคือช่วงเวลาที่เด็กสาวหลายคนอาจนอนกอดตุ๊กตาตัวโปรดบนเตียงอุ่น แต่สำหรับ “รินกิ คุมัวริ” เด็กน้อยวัย ๘ ขวบที่หมู่บ้าน “ฌริยา” (झरिया) เขตธันพาทะ รัฐฌารขัณฑ์ ทางตะวันออกของประเทศอินเดีย เธอกำลังเทินตะกร้าขนถ่านหินสีดำหนักบนศีรษะ
รินกิเป็นหนึ่งในเด็กจำนวนหลายร้อยคนที่ชีวิตและครอบครัวขึ้นอยู่กับปริมาณถ่านหินที่ขนได้ในแต่ละวัน แม้พวกเขาจะรู้ดีว่าสิ่งที่ทำเป็นการขโมยและผิดกฎหมาย แต่นี่คือหนทางหารายได้เพียงไม่กี่อย่างของพวกเขาในเมืองนี้
ฌริยาเป็นเมืองหนึ่งที่มีเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดและผลิตถ่านหินได้มากที่สุดของประเทศอินเดีย ทั้งยังเป็นเหมืองที่ติดไฟลุกโชนมากว่า ๑๐๐ ปี ซึ่งถือว่านานที่สุดในโลก นอกจากจะมีรถสิบล้อจำนวนมากวิ่งตะกุยฝุ่นบนถนนลูกรังฟุ้งกระจายตลอดเวลา ตอนเย็นอากาศที่หายใจยังผสมควันดำจากการเผาถ่านหิน ทางเดินในหมู่บ้านมีรอยแยกบนแผ่นดินซึ่งความร้อนพวยพุ่งขึ้นเสมอ จนหลายคนถึงกับเรียกเมืองนี้ว่า “นรกบนดิน”
ชาวบ้านขนถ่านหินใส่ตะกร้าในบริเวณเหมืองที่ยังมีไฟติดลุกโชน แม้พวกเขาจะรู้ดีว่านี่คือการขโมย แต่เป็นทางเอาตัวรอดที่ดีที่สุดในเมืองแห่งถ่านหิน และความยากลำบากของเส้นทางก็ไม่ใช่อุปสรรค
รินกิโชว์การเป่าหมากฝรั่งกับเพื่อน ๆ ระหว่างรอเข้าชั่วโมงเรียน
หลังจากขนถ่านหินกลับถึงบ้าน รินกิจะล้างเนื้อล้างตัวและหวีผมเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน
แม้จะย้ายผู้คนออกไปแล้วกว่า ๓,๐๐๐ ครัวเรือนจากเขตพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหมือง แต่ครอบครัวของรินกิคือหนึ่งใน ๗ หมื่นครอบครัวที่ยังคงอาศัยอยู่ที่นี่ และทุกวันก็ยังมีผู้คนยอมเสี่ยงกับมลพิษรอบตัวเดินไปขโมยถ่านหินสีดำหรือ “โกยลา” (कोयला) ในภาษาฮินดี เพื่อมาใช้ในครัวเรือนและขายเป็นรายได้ประทังชีวิต
ทุกเช้าเด็กหญิงและครอบครัวซึ่งประกอบด้วยแม่ พี่ชาย และพี่สาวอีกสองคน จะออกจากบ้านพร้อมตะกร้าไม้สานที่ว่างเปล่าและกลับมาพร้อมถ่านหินสีดำเต็มตะกร้า ขณะพ่อทำหน้าที่เฝ้าร้านขายของเล็ก ๆ เพราะเคยประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่สะดวก ราว ๙ โมงเช้าเป็นเวลาที่ต้องไปโรงเรียน แม่ของเธอยังขนถ่านหินในเหมืองต่อจนกว่าจะถึงเวลาโรงเรียนเลิก เมื่อเด็กหญิงกลับบ้านมา วางกระเป๋า เปลี่ยนชุด และหิ้วตะกร้าไปช่วยแม่ขนถ่านหินจากเหมืองนั้นอีกครั้ง
ท่ามกลางภูเขาหัวโล้นสีดำทะมึนหลายสิบลูก เธอเดินผ่านกองถ่านหินและไฟระอุใต้พื้นธรณีไปอย่างไม่แยแส บางครั้งก็กระโดดข้ามรอยแยกร้อนระอุนั้นเสมือนเป็นสนามเด็กเล่นที่คุ้นเคย
ภายในบ้านของรินกิกับเตียงที่เธอและพี่สาวนอนด้วยกันทุกคืน
แม่ช่วยแปรงฟันให้เธอด้วยก้านสะเดาซึ่งเป็นแปรงสีฟันที่คนอินเดียนิยมใช้
พี่สาวของรินกิกะเทาะถ่านหินเป็นก้อนเล็ก ๆ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงจุดไฟประกอบอาหาร