เรื่องและภาพ : วาสนา หอมชื่น(ฤดูกาล)

กอด

“สบายดีไหม” เสียงจากวิดีโอของใครคนหนึ่งจาก Youtube ทำให้น้ำตาไหลพรั่งพรูอย่างไม่มีเหตุผล

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นคืออะไร หรือเธอกำลังกลัวอะไร หาเหตุผลไม่ได้

ชีวิตในเวลานี้ของผู้หญิงคนหนึ่ง ดูจะยากเหลือเกินสำหรับการจะทำอะไรแต่ละอย่าง เหมือนทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน จนมีคำถามในใจว่าจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไร จะใช้ชีวิตอย่างไรกับสถานการณ์ที่กดดัน บีบคั้น จนทำให้รู้สึกว่าไม่สบายใจขณะนี้ คนรักจู่ๆ ก็เดินจากไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จิตใจอ่อนแรง บอบบางในทุกขณะที่หายใจ

แต่ด้วยตลอดชีวิต เธอเข้มแข็ง คิด และตัดสินใจ ด้วยตัวเองอย่างมั่นใจเสมอ กับชีวิตการทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทฯ กว่า 15 ปี พยายามพาตัวเองไปให้ถึงจุดที่เรียกว่า ความสำเร็จ และ ความสุข ที่เธอคิดและฝันให้เกิดขึ้นจริง จนวันหนึ่งเธอตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิต วางแผนทำธุรกิจเอง ความกลัวและความไม่มั่นใจเกิดขึ้นมากมาย ก่อนจะลาออกจากที่ทำงาน และใช้เวลาหลายวันกับการตัดสินใจบอกกับครอบครัวว่า เธอจะไม่อยู่ในจุดเดิมอีกต่อไป

hug05
hug06
hug07

เธอพาตัวเองกลับบ้านเกิด ชีวิตปรกติที่บ้านต่างจังหวัดคือพบปะกับเพื่อนบ้านเวลาที่เธอนำขยะไปทิ้งหน้าบ้านตอนเช้า ความที่เป็นคนชอบพูดคุย ทุกครั้งที่เธอกลับบ้านเหมือนจะเป็นความสุขเล็กๆ ที่ได้ทักทายสารทุกข์สุขดิบของพี่ป้าน้าอาในหมู่บ้าน

แต่สำหรับครั้งนี้ดูแตกต่างจากทุกครั้ง ใบหน้า แววตา ท่าทาง ของเธอไม่ได้แข็งแรง ไม่สนุกสนาน รอยยิ้มที่มีพลังและชีวิตชีวาหายไป จนคนในครอบครัวสังเกตได้ นั่งอยู่ภายในรถด้วยกันก็ปราศจากเสียงพูดคุยหยอกล้อ ความเครียดที่ติดตามเธอไปทุกที่ เธอควบคุมมันได้น้อยมากจนถึงไม่ได้เลย

เธอพาตัวเองไปออกกำลังกาย เดินวนไปวนมาในหมู่บ้าน พูดจา ทักทาย คนเฒ่าคนแก่เหมือนเช่นเคย เธอหวังว่าจะดีขึ้นจากความรู้สึกกลัวอะไรสักอย่าง

มีครอบครัวหนึ่งที่เธอเห็นตั้งแต่เด็ก มีพ่อ แม่ และลูกสาวอีกสองคน เป็นครอบครัวข้าราชการ ลูกๆ มีหน้าที่การงานและการเงินที่ดี เวลาที่เธอนำขยะมาทิ้งก็มักจะแวะคุย ทักทาย สร้างรอยยิ้มให้เสมอ

เพราะอะไรหรือ

หญิงสูงอายุ ผู้เป็นแม่เป็นอัมพาต พูดไม่ได้ เดินไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่รับรู้ความรู้สึกทุกอย่าง ซึ่งเธอมักมีขนมมาฝาก

เสียงดังอู้อี้ คล้ายตะโกนแต่ไม่เป็นถ้อยคำความหมายทำให้เธอรับรู้ว่าท่านกำลังส่งเสียงเรียก

เธอเดินเข้าไปหาป้าที่นั่งอยู่บนรถเข็นเหมือนยามปรกติ แต่ด้วยเธอมาจากพื้นที่เสี่ยงจากโรคระบาดโควิด ๑๙ เธอจึงระมัดระวังในการเข้าใกล้

“หนูเอาขนมมาฝากนะวันนี้”

ป้าน้ำตาไหล และส่งเสียงร้องไห้โฮ จนเธอตกใจ

“พี่คะ ป้าร้องไห้ทำไม” ลูกของป้าบอกว่า เธอหายไปนาน มีแต่ขนมมา แต่ไม่เห็นตัว

พลางเสียงสะอื้นดังขึ้น ป้าพยายามโน้มมาหาเธอเพื่อ “กอด” พาให้เธอตื้นตันกับความรู้สึกและการกระทำที่รับรู้ได้ถึงความ “คิดถึง” ที่ไม่มีเสียง มีแต่ร่างที่พยายามแสดงความรู้สึกอย่างห้ามไม่ได้

สำหรับบางคน การรอ และได้พบเจอ ได้สัมผัส เป็นเรื่องยิ่งใหญ่

“ป้าอย่าร้องน่า เดี๋ยวหนูร้องไห้ด้วยเลย” (แต่น้ำตาก็ไหลไม่หยุดทั้งคู่)

รอยยิ้มบางๆ จากลูกสาวอีกคนของป้าที่นั่งอยู่บนรถเข็นส่งมาให้เธออีกครั้ง

ลูกของป้าเป็นสาวสวย กิริยามารยาทงดงาม มีหน้าที่การงานที่ดี สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อน อยู่ดีๆ ขา แขน ไม่มีแรงจะพยุงร่าง และในที่สุดก็ไม่สามารถขยับตัวได้อีก

ทุกอย่าง ทุกอาการ ทุกเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า สั่นสะเทือนความรู้สึกของคนที่ยังกินได้ เดินได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ กับความคิดที่มีแต่ความเครียด มองปัญหาของตนเองว่าเป็นเรื่องใหญ่

เธอยังทำอะไรได้อีกมาก สำหรับคนที่อยากทำแต่ไม่ได้ทำ อะไรที่จะเป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่น เธอควรที่จะทำ และทำทันที เท่าที่คิดว่าทำได้

สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้คือการสร้างเสียงหัวเราะ ให้พวกเขามีพลัง มีกำลังใจ ต่อสู้กับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่อย่างมีสติ และมีความสุข

วันนี้เธอต้องข้ามเรื่องราวของตัวเอง มีคนที่กำลังเผชิญกับบททดสอบชีวิตที่ยากเหลือเกินมากกว่าเธอ เขากำลังต้องการกำลังใจ และเธอสามารถให้เขาได้ด้วย “ความรัก” และความปรารถนาดีเต็มหัวใจ

หัวใจของเธอเต้นอย่างมีความหมายอีกครั้ง

เหตุการณ์นั้นทำให้เธอกลับมาพิจารณาทบทวนตัวเอง ว่าโชคดีแค่ไหนที่มีคนรอบข้างให้ความรัก ความเมตตา และรอคอยรอยยิ้ม อยู่ที่เธอจะเรียนรู้เรื่องราวที่เข้ามา และให้มันผ่านไปเพื่อเป็นประสบการณ์สอนตัวเองและส่งต่อให้ผู้อื่น

ในวันที่ใจอ่อนล้า ในช่วงของชีวิตที่ช่างยากเย็น ให้ใช้ใจมองมุมใหม่ หาเรื่องดีๆ ในเรื่องนั้น

มันยากนะ แต่เกิดขึ้นได้ถ้าพยายาม

ก่อนจะรอ “กอด” จากคนอื่น ให้รู้จัก “กอด” ตัวเองให้แน่นๆ

ขอบคุณร่างกายที่แข็งแรงที่พาให้เราไปทำอะไรต่างๆ

ขอบคุณครอบครัว คนรัก สัตว์เลี้ยงที่รัก ธรรมชาติที่รัก ที่ยังคงอยู่เคียงข้างกัน ฯลฯ

ขอบคุณตัวเองที่ผ่านเรื่องราวอะไรต่างๆ มามากมาย

และเธอจะออกเดินทางเพื่อใช้ชีวิตให้มีความหมาย