เรื่องและภาพ : ศิรประภา มีทรัพย์
ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ระบาดไปทั่วประเทศ ผู้คนเหมือนถูกจำกัดพื้นที่ในการใช้ชีวิตมากขึ้นๆ จากที่เคยจะไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ไปก็ต้องงดเว้นชั่วคราว จากที่เคยต้องตื่นเช้าไปทำงาน หลายคนก็ปรับเปลี่ยนเป็น work from home กิจกรรมบางกิจกรรมที่เคยทำก็จำต้องตัดทิ้งไป
การที่เราต้องทำกิจวัตรเดิมๆ ซ้ำๆ ในห้องสี่เหลี่ยมเนื้อที่ค่อนข้างจำกัด มันช่างน่าห่อเหี่ยว
ชีวิตต้องวนเวียนอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือแทนการได้ออกไปพบเจอผู้คนในแต่ละวัน ช่วงแรกอาจรู้สึกดีเพราะได้พักผ่อน แต่นานวันเข้าจิตใจเราเริ่มไม่แจ่มใสเหมือนก่อนหน้าแล้ว เหมือนเป็นการสะสมความเครียดทีละนิด และเมื่อเครียดมากเกินไป สุดท้ายกายใจเราก็อาจอ่อนแอย่ำแย่ลง
ความสุขเริ่มลดลง ความมีชีวิตชีวาเริ่มน้อยลงเรื่อยๆ จนคล้ายหุ่นยนต์เข้าไปทุกที
“นี่มันไม่ใช่เราเลย เราเคยมีความสุขมากกว่านี้ ยิ้มหัวเราะได้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ เราจะทำยังไงให้ตัวเองกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง”
ได้ยินใครหลายคนบอกว่า ถ้าไม่สบายใจให้ลองเอาเท้าจุ่มน้ำ เราเคยลองทำแล้ว มันผ่อนคลายจริงๆ แต่พักหนึ่งก็กลับไปเครียดเหมือนเดิม วิธีนี้คงไม่เหมาะกับเราสักเท่าไร
ท้ายที่สุดเราก็ค้นพบว่า vanilla sky นี่แหละ คือยารักษาใจชั้นเยี่ยมของเรา
เคยมีโอกาสได้อ่านบทความหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องทฤษฎีของสี เลยลองค้นหาข้อมูลดู แล้วเราก็พบบทความของคุณอัครพล ด่านทองหลาง ในเว็บไซต์ beartheschool เขาบอกว่า ความหมายของสีต่างๆ เกิดจากร่างกายเราตีความจากสิ่งที่สัมผัสด้วยตาเราเอง เช่น ถ้ามองสีฟ้าก็ทำให้เรานึกถึงท้องฟ้า มองสีเขียวก็นึกถึงป่าไม้หรือทุ่งนาเขียวชอุ่มในฤดูฝน
ในทางจิตวิทยา สีฟ้าสื่อถึงความสดชื่นและความสงบ สีชมพูสื่อถึงความอ่อนโยน เป็นมิตร และน่าทะนุถนอม สีส้มสื่อถึงความหลงใหล ความสุข และการให้กำลังใจ นี่น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวเราเองถึงชอบมองท้องฟ้าในตอนเย็นมากที่สุด
การได้เห็นแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดสะท้อนบนผืนฟ้า แล้วสีของท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าสดใสค่อยๆ กลายเป็นสีส้มอมชมพู มันทำให้เรารู้สึกหลงใหล สงบ และจิตใจอบอวลไปด้วยความสุข
หลายครั้งที่ถูกปัญหาต่างๆ ถาโถมเข้าใส่ราวกับตัวเราเป็นเรือลำน้อยๆ ลอยเคว้งคว้างท่ามกลางมหาสมุทรขณะพายุคลั่ง หรือในช่วงที่อ่อนแอ ไม่รู้จะจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างไร เรามักใช้ vanilla sky เป็นยารักษาใจ คอยปลอบประโลม ช่วยคลายความเครียด
โดยวิธีนี้เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย แต่พบว่ารู้สึกดีขึ้นทุกครั้งที่ได้ยืนมองท้องฟ้า ซึ่งไม่ว่าจะมีแบ็กกราวนด์แบบไหน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็มักเป็นความรู้สึกเดียวกัน คือ ผ่อนคลาย สงบ และมีความสุข
เรายิ้มได้ทุกครั้งจริงๆ ที่ได้มองความงดงามและสีสันของท้องฟ้าในยามเย็น
บางทีความสุขก็เกิดขึ้นได้จากสิ่งเล็กๆ รอบตัวเรา
เพียงแค่ออกไปยืนที่ริมระเบียงห้องพัก ยืนนิ่งๆ รับสัมผัสของสายลมที่พัดผ่านมาให้ผ่อนคลายเย็นสบาย มองดูยอดไม้เอนไหวหยอกล้อกับสายลม แล้วเฝ้าดูสีของท้องฟ้ายามเย็นที่ค่อยๆ กลายเป็นสีส้มอมชมพูอย่างอบอุ่นหัวใจ จากที่รู้สึกเบื่อก็เริ่มมีรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าทีละน้อย ท้ายสุดเราก็เผลอยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ทว่าความสุขของแต่ละคนหน้าตาไม่เหมือนกัน บางคนมีความสุขจากการได้พูดคุยกับต้นไม้ที่ตนเองปลูก หรือนั่งฟังเสียงนกร้องในยามเช้า บางคนเพียงแค่เท้าได้สัมผัสผืนหญ้านุ่มๆ ขณะเดินเล่น ความสุขจากความผ่อนคลายก็บังเกิด
เราอยากให้คุณลองค้นหาดูว่า จริงๆ แล้วความสุขของคุณหน้าตาเป็นแบบไหน อาจมีหน้าตาเหมือน vanilla sky แบบเราก็ได้
หนึ่งคำตอบของความสุขสำหรับเราคือธรรมชาติ แล้วคุณล่ะ เป็นอย่างนั้นเช่นกันหรือเปล่า
(อ้างอิงข้อมูลจากบทความของคุณอัครพล ด่านทองหลาง ในเว็บไซต์ www.beartheschool.com)
สำหรับท่านที่สนใจเรียนรู้การ Parkใจ สามารถติดตามกิจกรรมอื่นๆ ในปีนี้ได้ที่ เฟซบุ๊กกรุ๊ป Parkใจ
ดำเนินการโดย นิตยสารสารคดี และนายรอบรู้ นักเดินทาง
สนับสนุนโดย เพจความสุขประเทศไทย และ ธนาคารจิตอาสา
ชวน Park ใจ โดยนิตยสารสารคดี และ “นายรอบรู้” นักเดินทาง
สนับสนุนโดยเพจความสุขประเทศไทย และธนาคารจิตอาสา
