เรื่อง : นพรุจ สงวนจังวงศ์
ภาพ : มนุษย์ต่างวัย talk 2023
มีฝันอย่าทิ้งฝัน แค่เพราะมันยังไม่เป็นจริง
“สวัสดีค่ะ ชื่อวันเพ็ญ ชัยบุญญลักษณ์ ชื่อเล่น ยี ปัจจุบันมีอาชีพเป็นนางแบบ พึ่งเข้าวงการตอนอายุ 57 ปี”
หากการเป็นนางแบบนั้นหมายถึงการได้แต่งหน้าทำผมและใส่ชุดสวยเดินบนเวที จึงไม่น่าแปลกหากอาชีพนี้จะเป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ หลายคน รวมถึงคุณยีด้วยเช่นกัน
“ตอนเด็กๆ ยีเป็นคนรักสวยรักงามและชอบแต่งตัวมากจนฝันอยากเป็นนางแบบ พอวัยรุ่นก็เริ่มไปซื้อเสื้อผ้าที่สยามเซ็นเตอร์ ร้านประจำชื่อ โซดา ป็อป ซื้อบ่อยจนถึงขั้นมาสมัครเป็นพนักงานขายเอง เพราะพนักงานที่นี่ต้องใส่เสื้อผ้าแฟชั่นของร้าน ซึ่งออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดังในยุคนั้น แถมมีโอกาสได้เจอกับเหล่านางแบบ ช่างภาพ ช่างทำผม ช่างแต่งหน้ามากมาย ตอนนั้นคิดว่าความฝันที่จะเป็นนางแบบใกล้เข้ามาแล้ว”
เอ่ยถึงโซดา ป็อป เป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ถือกำเนิดในช่วงปี 2522 โดย เมนาท นันทขว้าง จากการเห็นโอกาสที่ในตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มีใครผลิตเสื้อยืดแฟชั่นสวยๆ มาขาย จึงเริ่มออกแบบและวางจำหน่ายจนเป็นที่นิยมของวัยรุ่นยุคนั้น โดยเปิดร้านแรกขึ้นที่ชั้นสาม ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะขยับขยายไปอีกหลายสาขา
“พอทำงานไปเรื่อยๆ แม้ตัวจะอยู่ใกล้ความฝัน แต่ก็เหมือนห่างไกลออกไปทุกที เพราะสุดท้ายเขาเห็นและจดจำว่าเราเป็นแค่พนักงานขาย ไม่ใช่นางแบบ ทำไปได้สักระยะก็ตัดสินใจออกไปแต่งงานมีครอบครัว กลายมาเป็นแม่บ้านเต็มตัวอยู่ 30 ปี”
จากชีวิตวัยรุ่นที่มีความฝันและพยายามไขว่คว้า กลายเป็นคุณแม่ที่ต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับลูก กระทั่งเมื่อลูกๆ โตและออกไปใช้ชีวิต ภารกิจอีกหนึ่งอย่างคือการดูแลพ่อแม่ที่เจ็บป่วย โดยมีผู้ช่วยทางใจเป็นน้องหมา
“ตอนนั้นอายุประมาณ 40 ถึง 50 ปีต้นๆ ยีจะอยู่บ้านกับสามีและมีหมาหนึ่งตัวชื่ออาหมุย สามีทำงานต่างจังหวัด เพราะฉะนั้นชีวิต 10 กว่าปีให้หลัง ทั้งบ้านจะมีแค่เรากับอาหมุยเท่านั้น เรามองมัน มันมองเราจนเหมือนสื่อใจถึงกันได้”
แต่แล้ววันหนึ่งคุณพ่อก็เสียชีวิตลง ไม่นานนักอาหมุยก็ตายจากไป และเพียง 3 เดือนให้หลังคุณแม่ก็มาเสียชีวิตตามไปอีกคน
“สามชีวิตนี้ทำให้เรารู้สึกมีคุณค่า พอเสียพวกเขาไปในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน มันเหมือนกับตายทั้งเป็น ได้แต่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในห้องนอน สุขภาพย่ำแย่ ไร้จุดหมาย จนลูกชายโอนเงินมาให้และขอให้เราออกไปข้างนอกบ้าง”
จากจุดเริ่มต้นบนความสูญเสีย ใครจะคิดว่าสิ่งนี้ได้พาเธอไปเจอกับฝันที่ทำหล่นหาย
“วันหนึ่งเรากลับมานั่งดูโทรศัพท์ และไปเจอโพสต์ของเพื่อน เห็นรูปแฟนเขาแล้วก็ตกใจว่าทำไมอายุ 50 แล้วแต่ยังดูดี เลยคอมเมนต์ไปจนเพื่อนติดต่อมาถามว่าอยากลองปรึกษากับแฟนของเขามั้ย เลยตกลงนัดเจอกันที่สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี พอไปถึงแล้วหาจุดนัดพบไม่เจอ เลยยืนอยู่ตัวคนเดียว แถมตอนนั้นเป็นช่วงโควิดจึงแทบไม่เจอคน แต่มีช่างภาพคนหนึ่งกำลังถ่ายรูปอยู่ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเขากำลังทำงาน พอเห็นจังหวะที่เขาว่างเลยเดินเข้าไปเพื่อถามทาง เขาตอบกลับมาและถามเรากลับว่า พี่เคยถ่ายแบบมั้ยครับ”
เพียงคำถามสั้นๆ แต่ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล
“เหมือนกับว่ามีของสิ่งหนึ่งที่คุณรักมาก แต่ต้องวางทิ้งไว้ นานจนลืมไปเลยว่าเคยมี อยู่มาวันนึ่งดันบังเอิญไปเดินสะดุดมันเข้า เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็ได้พบสิ่งที่คุณเคยรักมากและคิดว่าคงไม่ได้เห็นอีกแล้ว”
คุณยีเปรียบเทียบความรู้สึกที่มีหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น
เธอกับช่างภาพได้ติดต่อกัน นับเป็นก้าวแรกของชีวิตนางแบบหน้าใหม่ ผู้ได้กลับมาสานฝันอีกครั้งในวัย 57
จนวันนี้คุณยีมีผลงานทั้งการถ่ายแบบ เดินแบบ รวมไปถึงงานโฆษณา
หนึ่งในผลงานที่น่าภูมิใจ คือการได้ไปเดินแบบในงาน Bangkok International Fashion Week หนึ่งในเวทีแฟชั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และยังคงมีผลงานใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
แม้เป็นเวลานานกว่าที่ฝันของเธอจะเวียนมาหา แต่ในเมื่อมันกลับมาก็ไม่มีคำว่าสายที่จะพยายามไล่ตามอีกครั้ง
แค่ครั้งนี้ไม่ใช่การวิ่งไล่เหมือนเมื่อยังสาว แต่เป็นการเดินตามอย่างสบายๆ และมีความสุข
“ยีเชื่อว่าชีวิตถูกขีดมาไว้แล้ว สิ่งใดถ้ายังไม่ใช่เวลาของเรา ต่อให้ไขว่คว้าแค่ไหนก็ไม่ได้ แต่หากถึงเวลาของเราเมื่อไหร่ ต่อให้นั่งเฉยๆ สิ่งนั้นก็จะมาหาเราเอง แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เอาแต่นั่งรอโดยไม่พยายามทำอะไรเลย เพียงแค่ให้ทำอย่างมีความสุข ไม่ต้องรีบร้อน หากทำแล้วยังไม่สำเร็จก็อย่าพึ่งหมดกำลังใจ ค่อยๆ ทำต่อไป รอคอยเวลา
“และอย่าทิ้งความฝันเท่านั้นเอง”
ติดตามเพจ เข็นแม่เที่ยว
#สสส #วัยนี้วัยดี #ชีวิตดีดีสร้างได้ทุกวัย #manoottangwai #มนุษย์ต่างวัย #มนุษย์ต่างวัยTalk2023 #OutOfTheBoxAging #สังคมสูงวัย
