ทีมมัทฉะลาเต้
เรื่อง : อาทิมา คำหมาย
ภาพ : สวันนีย์ ปานมา

“เหนื่อย” คำพูดสั้นๆ ของบุคคลหนึ่ง หากได้ใกล้ชิด หรือได้รับรู้ชีวิตในแต่ละวัน คำพูดเพียงเท่านั้นก็คงจะสร้างความรู้สึกที่หนักอึ้ง และเข้าถึงอารมณ์ของผู้พูดได้มากพอดู

เธอเล่าย้อนกลับไปในอดีต ในช่วงเวลาที่มีเพียงแค่ตัวเธอกับเด็กสาวนั่งกันอยู่ภายในห้อง สักพักเด็กสาวคนนั้นก็ลุกขึ้นยืน ก้าวเดินไปที่ประตูทางออกและเหลียวมองกลับมา ใบหน้าเผยรอยยิ้มเล็กๆ

“ขอบคุณมากนะคะครู” นักเรียนหญิงชั้น ม.ปลายกล่าวพร้อมกับยกมือไหว้ก่อนเดินออกจากห้อง

การให้คำปรึกษา คงเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของ “ครูเข็ม” ไปแล้ว นี่ไม่ใช่การสมยอม สำหรับครูเข็มเธอพร้อมจะเข้าใจและรับฟังด้วยความยินดี

คำถาม เรื่องราว ที่เด็กๆ มักนำมาขอคำปรึกษากับเธอนั้นมีแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะด้านการเรียนการศึกษา ปัญหาในครอบครัว ความรักวัยหนุ่มสาว การควบคุมอารมณ์ ความสัมพันธ์ต่างๆ จวบจนความรุนแรงที่อาจถึงแก่ชีวิต

………………

การให้คำปรึกษา คงเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของ ครูเข็ม ไปแล้ว นี่ไม่ใช่การสมยอม สำหรับครูเข็มเธอพร้อมจะเข้าใจและรับฟังด้วยความยินดี

“ผลตรวจออกมาแล้วนะคะ ปรกติดี…ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไรค่ะ” แพทย์สาวกล่าว

ครูเข็มเงียบไปชั่วครู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมาพบจิตแพทย์เพื่อวินิจฉัยในสิ่งที่ตนกำลังวิตก แต่ครั้งนี้ทำให้เธอต้องทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ว่าเพราะอะไร เหตุใดผลตรวจจึงออกมาว่าเธอ “ไม่ได้เป็นอะไร”

ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนใจดี ใจกว้าง เป็นที่รักของคนรอบข้าง และพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆเสมอ แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าตนเองกำลังป่วยเป็นอะไรสักอย่าง ?

ฉันถามครูเข็ม ว่าความเป็นผู้ใหญ่ในแบบของเธอนั้นเป็นเช่นไร เพราะตัว “ฉัน” ก็เป็นศิษย์ของครูเข็ม อายุของเราทั้งสองห่างกันราวๆ 21 ปี เรียกได้ว่าคนละช่วงวัยเลยทีเดียว

“ครูอยากเป็นคนที่เด็ดขาด อยากเป็นคนที่ตัดสินใจได้โดยไม่ต้องเกรงใจคนอื่น เพราะตอนนี้ครูเกรงใจ ครูพยายามทำให้คนอื่นพอใจในสิ่งที่เราตัดสินใจ…จนไม่เป็นตัวของตัวเอง จนไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรแล้วด้วยซ้ำ” ครูเข็มเผยความในใจ

เธอไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนั้น แต่ความกลัวในจิตใจก็ทำให้เธอกังวล…กังวลว่าถ้าเธอไม่เป็นแบบนั้นคนรอบข้างจะไม่พอใจ

ครูเข็มเล่าให้ฉันฟังถึงเรื่องราวในอดีต เหตุการณ์ที่เธอต้องรับบท “ผู้นำ” ที่เธอพยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด เพราะไม่ชอบออกคำสั่งใคร ในทางกลับกันเธอยินดีหากได้รับบทบาทเป็นผู้ตามเสียมากกว่า

“เหมือนต้องมาว่ายน้ำทั้งที่เราไม่ได้ถนัด ถ้าจะให้ว่ายตะเกียกตะกายขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อเอาตัวรอด…แบบนั้นเราทำได้ แต่เราไม่ได้มีความสุข แถมยังเป็นการทรมานตัวเอง”

หลังจากฟังจบฉันก็เข้าใจในสิ่งที่ครูต้องการจะสื่อ ความรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่อาจทิ้งภาระหน้าที่นี้ไปได้

ความคิดด้านลบต่างๆ กรูเข้ามาในหัว ก่อเกิดเป็นความกดดันแบบไม่ทันรู้ตัว สิ่งที่เธอกำลังเผชิญเริ่มทำลายกิจวัตรประจำวัน ทั้งการดื่ม การกิน การพักผ่อน การจับจ่ายใช้สอย กระทั่งเธอตัดสินใจเดินทางไปพบจิตแพทย์ แต่ไม่ว่าจะพบกับจิตแพทย์คนไหน ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกัน “เธอไม่ได้ป่วย”

ในครั้งแรกเธอยังไม่เชื่อ จนมาสิ้นสุดที่แพทย์คนสุดท้าย นี่จึงถือเป็นการยืนยันจริงๆ แล้วว่าเธอยัง “ปรกติ” ดีอยู่

……………

krukhem02

“ความคิดของเราเองทั้งนั้น”

ครูเข็มสรุป หลังจากใช้เวลาคิดทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เธอกำลังเป็นอยู่

ทุกอย่างกระจ่างชัด รวมทั้งความสงสัยภายในใจของฉันก็ได้ถูกปลดล็อกตามไปด้วย

ไม่ใช่ทุกคนที่จะห้ามความคิดของตนเองได้ และไม่ใช่ทุกเรื่องที่เราจะสามารถควบคุมได้ บางอย่างต้องใช้เวลาทำความเข้าใจและพิสูจน์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

เมื่อย้อนนึก ทุกๆ ครั้งที่ฉันได้พบครูเข็ม ได้พูดคุยกัน หรือขณะที่เธอกำลังสอน ฉันกลับไม่รับรู้อีกด้านหนึ่งของเธอเลยแม้แต่น้อย

นิสัยที่เป็นมิตรจนสร้างความคุ้นเคยให้แก่เด็กๆ ของครูเข็ม ทำให้ฉันหลงลืมไปบางอย่าง…บางอย่างที่ว่านั้น คือไม่ใช่กับทุกคนที่จะประสบพบเจอกับ “ความสุข” ไปได้ตลอด แต่ละคนย่อมเคยผ่านเรื่องราวอันขมขื่นกันมาก่อน ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง ถึงกระนั้นเราก็สามารถเลือกได้… ว่าจะแสดงออกในด้านใดให้ใครได้รับรู้

ดังนั้นหากบทสนทนานี้ไม่เกิดขึ้น ฉันเองก็มิอาจทราบได้ว่าตัวตนจริงๆ ของเธอเป็นเช่นไร และอาจเผลอตัดสินความเป็น “ตัวเธอ” จากการมองเพียงไม่กี่มุมเป็นแน่แท้

……………..

krukhem03

ตอนนี้นอกห้องอากาศค่อนข้างเย็นสบาย…แม้กำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องเรียนที่มีแต่ฉันกับครูเข็ม อย่างไรเสีย การได้ความเป็นส่วนตัวก็ดี แต่ในอีกมุมหนึ่ง หากอยู่ในบรรยากาศสงบๆ ที่เป็นธรรมชาติคงจะน่าอึดอัดใจน้อยกว่านี้

นานมากแล้วกับการทำหน้าที่เป็น “ครูแนะแนว” ของครูเข็ม เดิมทีตอนยังสาวๆ อาชีพที่เธอตั้งเป้าหมายไว้นั้น ไม่ใช่คุณครูเลยแม้แต่น้อย ถึงจะเข้าคณะจิตวิทยาด้วยความสนใจจนกระทั่งเรียนจบ ความรู้สึกชื่นชอบ ความสนุกที่ได้เรียน เธอยังคงจำกลิ่นอายในช่วงเวลานั้นได้ดี และยืนยันว่าไม่ผิดหวังที่ได้เรียนคณะจิตวิทยา

“ครูประกอบอาชีพนี้เพื่อแม่”

นี่คือคำตอบที่ฉันได้รับ เธอไม่ได้ฝืน แต่เธอยินดีจากใจจริงสำหรับการทำตามความฝันให้แม่…แม้ต่อมาแม่จะไม่ได้อยู่กับเธอแล้วก็ตาม ดังนั้นฉันจึงมองว่าครูเข็มเป็นคนกตัญญูมาก

“ใจดี ใจกว้าง เป็นที่รักของคนรอบข้าง และพร้อมจะรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นๆเสมอ” ถึงนิสัยใจคอของเธอจะเป็นแบบนี้ ก็ใช่ว่าเมื่อก้าวเข้ามาสู่บทใหม่ในวัยทำงานเธอจะไม่ต้องปรับตัวใดๆ

ในตอนแรกเธอยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก นี่เป็นโรงเรียนแรกที่เธอได้เข้ามาสอน

“แล้วแบบนี้เวลาครูเจอกับนักเรียนที่ toxic ครูทำยังไงหรือคะ?”

เธอนิ่งไปชั่วครู่แล้วก็ตอบฉันพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ

“ครูร้องไห้เลยค่ะ”

ฉันประหลาดใจมากเมื่อได้ยินคำพูดนั้น แต่ถึงอย่างไรเธอก็มองว่ายังมีเรื่องที่ดีๆ อยู่ เพราะหลังจากนั้นเด็กก็ได้เดินมาขอโทษเธอที่ห้องพักครู เธอจึงมองเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า “ก็ถือซะว่าให้ได้เรียนรู้ทั้งตัวเราแล้วก็ตัวเขาไปด้วย”

ครูเข็มเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงแรกของการทำงานที่นี่ ทั้งการอยากลาออก การปรับตัวต่างๆ การทำความเข้าใจ และเรื่องส่วนตัวของเธอเอง ฉันก็นึกภาพตามไปด้วย “หนักเอาเรื่อง” ฉันคิด

แต่ถึงอย่างไร…การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ล้วนมีบทบาทสำคัญในการหล่อหลอมให้เธอเป็นเธอจนถึงทุกวันนี้

ครูเข็มเข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น เข้าใจพฤติกรรมของเด็กๆ ที่เธอสอน เข้าใจการเปลี่ยนแปลง เข้าใจความแตกต่างที่เธอไม่อาจนำมาตรฐานเดิมของตนเองมาตัดสิน เช่น ครอบครัวไม่ได้เป็นเซฟโซนสำหรับทุกคน

มีอยู่ปีหนึ่ง เพื่อนร่วมงานถามเธอว่า “ในเมื่อตอนนี้แม่แกไม่อยู่แล้ว…แกไม่คิดจะลาออกหรอ ?”

ครูเข็มนึกคิดอยู่สักพัก “ไม่รู้สิ แต่ถ้าตอนนี้แม่ยังอยู่แม่ก็คงอยากให้ฉันทำต่อนะ”

ในความ “ไม่รู้” ฉันเดาว่าคงจะมีความผูกพันซ่อนอยู่ และการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดก็ได้เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งของครูเข็ม ราวกับว่าตอนนี้เธอเดินออกมาไกลมากโข กระทั่งความเป็นผู้ใหญ่ในวัยที่ใกล้จะ 40 นั้น ครูเข็มบอกกับฉัน…

“เหนื่อย”

เธอไม่ได้เหนื่อยกับนักเรียนที่เธอสอนหรือให้คำปรึกษา แต่เธอเหนื่อยกับหลายสิ่งหลายภาระ “งาน” ทั้งงานเอกสาร (จัดทำเอกสารหลายรายการ เช่น เอกสารการขอเงิน เบิกเงิน ฯลฯ แยกตามกิจกรรม ตามงานที่ได้รับ), งานในฐานะหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ที่เธอต้องประสานงาน วางแผนงานต่างๆ และแจกจ่ายงานให้แก่คนอื่นๆ, การดูแลจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มสาระฯ หรือในกิจกรรมที่หมวดของเธอได้รับมอบหมาย, การอยู่เวรประจำวันตามจุดต่างๆ, และคำสั่งอื่นๆที่ทางโรงเรียนมอบหมายให้เธอทำ

มีหลายเรื่องหลายภาระงานที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว จนบางครั้งเธอก็รู้สึกว่าตนเองไม่ได้อยากกระตือรือร้นมากถึงเพียงนี้ และว่ากันตามตรง…งานที่กล่าวไปข้างต้น ใช้เวลามากกว่าการสอนนักเรียนเสียด้วยซ้ำ

ดังนั้นการให้คำปรึกษาหรือการสอนในขณะที่สภาพจิตใจของเธอเองยังไม่พร้อม จึงค่อนข้างเป็นอุปสรรค เธอบอกตัวเองเสมอว่าจริงๆ แล้วเธอทำได้ดีกว่านี้ เพียงแค่ไม่มีเวลาให้มากพอ ไม่มีอารมณ์ร่วมมากพอ เนื่องจากใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับ “งาน”…

แต่เธอก็ต้องการดึงตัวเองกลับมาทำหน้าที่นี้ให้ดี เพราะนี่คือสิ่งที่เธอทำแล้วมีความสุข

“ครูยังเคยคิดเลยนะว่า ถ้าได้รู้จักกับพวกเราในตอนนั้น เราจะต้องสนิทกันมากแน่ๆ!”

ครูเข็มพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง ฉันจึงแอบหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยิน เพราะมันต่างจากเมื่อครู่นี้ลิบลับ

“แล้วทำไมครูถึงคิดอย่างนั้นล่ะคะ?” ฉันถามด้วยรอยยิ้ม

“นั่นน่ะสิ ครูเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมในตอนนั้นครูถึงคิดแบบนี้”

ครูเข็มตอบกลับด้วยโทนเสียงเมื่อครู่ เสียงขำเบาๆ ในลำคอฉันเกิดขึ้นอีกครั้ง

“ครูรู้สึกอิ่มเอมใจทุกครั้งเวลาเห็นเด็กๆ เดินออกไปแล้วตาเป็นประกาย บางคนถ้าครูช่วยหาทางออกได้ครูก็จะช่วยอย่างเต็มที่… บางคนก็ต้องการแค่ใครสักคนมานั่งรับฟังในสิ่งที่เขาต้องเจอ เพราะคำตอบที่ว่าเขาควรจะทำอย่างไร…ครูว่าเขามีอยู่แล้ว ถึงครูจะรู้ตัวว่าไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย แต่ในฐานะผู้ฟังที่ดี ครูก็พร้อมจะรับฟังและเข้าใจเสมอ”

น้ำเสียงครูเข็มฟังดูสั่นคลอนเล็กน้อย…อันที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรก

………………….

krukhem04

ก่อนจะจากกัน ฉันกับครูเข็มเดินออกมานอกห้อง และเริ่มพูดคุยกันต่อขณะเดินลงบันได ฉันถามครูเข็มว่านิยามความสุขสำหรับเธอนั้นเป็นเช่นไร

“กินอิ่ม…นอนหลับได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีเรื่องให้เครียดค่ะ” เธอตอบ เราหัวเราะกันเล็กน้อย นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งความสุขเล็กๆ ของคนทุกวัยแล้วกระมัง

เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง ฉันยกมือไหว้ครูเข็มจากลากันด้วยดีสำหรับวันนี้

อากาศยังคงเย็นสบาย แต่ความรู้สึกที่ปะปนและวนเวียนอยู่กับเสียงสั่นคลอนเหมือนกำลังสะอื้น ฉันเข้าใจความรู้สึกนี้…

เรื่องราวที่เธอเล่าคงจะส่งผลต่อความรู้สึกของเธอมากจริงๆ ถึงแบบนั้นครูก็ยังเปิดอกคุยกับฉันอย่างตรงไปตรงมา นั่นทำให้ฉันรู้อยู่อย่างหนึ่ง…

การช่วยเหลือผู้อื่น การทำให้คนอื่นๆ สบายใจ การส่งต่อความรู้สึกดีๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน คงจะเป็นความสุขของเธอจริงๆ …เพราะเมื่อผู้รับได้ในสิ่งที่เธอให้ไป ความโล่งอกและความสบายใจ ไม่ว่าจะในรูปธรรมหรือนามธรรม จะย้อนกลับมารักษาตัวเธอเองด้วยเช่นกัน

แม้ไม่อาจแตะต้องได้…แต่ความรู้สึกกลับรับรู้เป็นอย่างดี นี่จึงเป็นความสุขที่ไม่ได้มีดีแค่คำพูด

………..

krukhem05

เหตุผลที่ฉันเรียกเธอว่า “ครูเข็ม” นั่นเพราะความหมายของ “ดอกเข็ม” ซึ่งเป็นทั้งไม้ประดับ ทั้งดอกไม้ในวันไหว้ครู อันเนื่องมาจากความอดทนและพยายามฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในแบบที่ต้องการ…ก็ย่อมมีทั้งสิ่งที่ตนยอมรับ ปรับเปลี่ยน และเข้าใจ ย่อมมีทั้งสิ่งที่ตนต้องอดทน แก้ไข และเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลง เปรียบเสมือนปริมาณแสงแดดที่ต้องการ แต่ก็ยังทนต่อปริมาณน้ำที่มากเกินไปได้…

แม้จะเป็นไม้พุ่มถึกทนเช่นนี้ ไม่ถึงขั้นจะต้องดูแลอะไรมากมาย แต่แท้จริงแล้วก็ชอกช้ำได้ง่าย หากขาดความละเมียดละไมในการสัมผัส

ดังนั้นหากเป็นไปได้…ฉันก็อยากรักษาดอกเข็มพุ่มนี้ไว้ให้นานเท่านาน..:

#ครู #ครูแนะแนว #การศึกษา #โรงเรียน #สุขหมุนรอบตัวเรา #ค่ายนักเล่าความสุข #มูลนิธิเล็กประไพวิริยะพันธุ์ #นิตยสารสารคดี #เพจความสุขประเทศไทย #สสส