๏ อนึ่งภูษาผ้าทรงณรงค์รบ
ให้มีครบเครื่องเสร็จทั้งเจ็ดสี
ในบทกลอน “สวัสดิรักษา” ของสุนทรภู่ ซึ่งเชื่อกันว่าประพันธ์ขึ้นสมัยรัชกาลที่ ๒ ราวทศวรรษ ๒๓๖๐ ได้กล่าวถึงการเลือกสีฉลองพระองค์ (รวมถึงสีของม้าราชพาหนะ) สำหรับเจ้านายฝ่ายหน้า (ชาย) ที่จะไปกระทำศึกสงคราม โดยให้ยึดสีกายเทวดาประจำวันตามคัมภีร์มหาทักษาเป็นหลัก ได้แก่

“วันอาทิตย์สิทธิโชคโฉลกดี
เอาเครื่องสีแดงทรงเป็นมงคล”
(วันอาทิตย์ให้ทรงเครื่องอาภรณ์สีแดง คือตามสีกายของพระอาทิตย์)
“เครื่องวันจันทร์นั้นควรสีนวลขาว
จะยืนยาวชันษาสถาผล”
(วันจันทร์นุ่งห่มสีขาวนวล ตามสีกายของพระจันทร์)
“อังคารม่วงช่วงงามสีครามปน
เป็นมงคลขัตติยาเข้าราวี”
(วันอังคาร ใช้สีม่วงผสมคราม คือสีน้ำเงิน)
“เครื่องวันพุธสุดดีด้วยสีแสด
กับเหลือบแปดปนประดับสลับสี”
(วันพุธ แต่งกายชุดสีแสด)
“วันพฤหัสจัดเครื่องเขียวเหลืองดี”
(วันพฤหัสบดี นุ่งห่มสีเขียวเหลือบเหลือง)
“วันศุกร์สีเมฆหมอกออกสงคราม”
(วันศุกร์นุ่งห่มสีเมฆเพื่อออกศึก)
“วันเสาร์ทรงดำจึงล้ำเลิศ
แสนประเสริฐเสี้ยนศึกจะนึกขาม”
(วันเสาร์ควรแต่งกายด้วยสีดำ สีกายของพระเสาร์)
ตามความใน “สวัสดิรักษา” ตอนนี้ บ่งชี้ว่าสมควรแต่งกายสีไหนเมื่อไรเท่านั้น
คือหากจะต้องเข้าสู่สมรภูมิวันใด ก็ให้เลือกใช้ชุดสีที่สอดคล้องกับวันนั้นๆ
โดยไม่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่ว่าผู้สวมใส่เกิดวันไหน
ที่สำคัญคือ ชุดสีประจำวันเหล่านี้ ล้วนเป็นไปตามสีกายของเทวดาพระเคราะห์ในคติมหาทักษา
อันแตกต่างจากสีประจำวัน ชุดที่รับรู้กันทั่วไปในปัจจุบัน (วันอาทิตย์สีแดง วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู วันพุธสีเขียว วันพฤหัสบดีสีแสด วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์สีม่วง) อยู่มาก