
“การที่นับอายุมากขึ้นไปอีกปีหนึ่งนั้น ไปนับเสียแต่เมื่อเดือนห้าขึ้นค่ำหนึ่ง หรือเถลิงศกขึ้นศักราชใหม่ ว่าเป็นอายุมากขึ้นไปอีกปีหนึ่ง แล้วเป็นพื้นธุระกันอยู่แต่เรื่องรับเทวดาเสวยอายุ เมื่อปีใดเป็นเวลาจะเปลี่ยนทักษา เป็นเจ้านายก็มีตำราสะเดาะพระเคราะห์โหรบูชา เสด็จขึ้นเกยส่งเทวดาเก่ารับเทวดาใหม่ มีสวดมนต์เลี้ยงพระเป็นการบุญเจือในพระพุทธศาสนาด้วย”
ในพระราชนิพนธ์ “พระราชพิธีสิบสองเดือน” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเล่าว่าตามคติอย่างโบราณ ผู้มีบรรดาศักดิ์และเจ้านายจะนับอายุว่าเพิ่มขึ้นอีกปีหนึ่ง เมื่อ “เถลิงศก” ขึ้นปีใหม่ เปลี่ยนปีจุลศักราช ในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ โดยมีนัยสำคัญคือการรับเทวดาที่จะมาเสวยอายุ ซึ่งต้องจัดพิธีเป็นพิเศษ แต่ก็มิได้หมายความว่าทุกท่านทุกองค์จะทำเช่นนั้น บ้างอาจไม่เคยทำเลยจนตลอดอายุขัย เพียงแต่ถือกันว่า ถ้าใครเคยทำเข้าแล้วคราวหนึ่งจะต้องจัดพิธีรับเทวดาเสวยอายุทุกครั้งเสมอไป และเชื่อกันว่าหากไม่ทำแล้ว เจ้าตัวอาจเจ็บป่วยหรือมีเหตุอันตรายเกิดขึ้น
พระองค์ยังทรงเล่าด้วยว่า ในเรื่องการรับเทวดาเสวยอายุนี้
“แต่ก่อนๆ ก็เห็นจะมีตำราทำมา แต่ข้าพเจ้าไม่เคยทำและไม่ได้เคยเห็น เป็นแต่ได้ยินเล่า เขาจัดคาถาต่างๆ ตามองค์เทวดา ว่าเทวดาองค์นั้นเสวยอายุ ให้สวดคาถาอย่างนั้นกี่จบตามกำลังวัน คือพระอาทิตย์สวด อุเทตยัญจักขุมา ๖ จบ พระจันทร์สวดยันทุนนิมิตตัง ๑๕ จบ พระอังคารให้สวดยัสสานุภาวโตยักขา ๘ จบ พระพุธให้สวดสัพพาสีวิสชาตินัง ๑๗ จบ พระเสาร์ให้สวดยโตหัง ๑๐ จบ พระพฤหัสบดีให้สวด ปูเรนตัมโพธิสัมภาเรนิพพัตตัง โมรโยนิยัง ๑๙ จบ พระราหูให้สวด กินนุสันตรมาโนว ๑๒ จบ พระศุกร์ให้สวดอัปปสันเนหินาถัสส ๒๑ จบ พระเกตุให้สวดชยันโต ๙ จบ”
นั่นคือตามที่เคยทำกันมาแต่โบราณ เมื่อเทวดาองค์ใดจะเข้า “เสวยอายุ” ตามคติมหาทักษา หนึ่งในพิธีที่ต้องทำคือการสวดคาถาพระปริตร บทเฉพาะสำหรับเทวดาองค์นั้นๆ โดยชื่อคาถาที่ทรงอ้างถึงนี้ มาจากวรรคขึ้นต้นของบทสวดเหล่านั้น ซึ่งคนแต่ก่อนรู้จักขึ้นใจ ในการนี้ต้องสวดให้ได้จำนวนจบตามกำลังวันของเทวดา เช่นพระอาทิตย์ มีกำลังวันเป็น ๖ ก็สวด “อุเทตยัญจักขุมา” ๖ จบ คือเวียนซ้ำไป ๖ รอบ
ธรรมเนียมที่ทรงกล่าวถึงนี้คงเป็น “ประเพณีราษฎร์” ที่ยึดถือปฏิบัติกันทั่วไปลงมาจนถึงสมัยหลังๆ ในหนังสือ “คัมภีร์เฉลิมไตรภพ ฉบับของเทวสถาน” ของพระครูวามเทพมุนี (พิมพ์ในงานฌาปนกิจศพนางนครสวรรค์วรพินิต จัน อนัคฆมนตรี) เมื่อปี ๒๕๑๑ ได้ยกคำกลอนที่ว่าเป็นของโบราณ ผูกไว้ให้เป็นเครื่องช่วยจำเนื่องด้วยการสวด “คาถาบูชาพระทักษา” เหล่านี้ว่า
อาทิตย์หกยกชี้มีคาถา
สวดอุเทตะยัญจักขุมา
จันทร์สิบห้ายันทุนมีคุณดี
อังคารแปดสวดยัสสานุภาเสร็จ
พุธสิบเจ็ดสวดว่าสัพพาสี
เสาร์สิบสวดยะโตหังภะคินี
พฤหัสบดีสิบเก้าสวดปูเรนบรรพ์
ราหูสิบสองกินนุสันหยิบ
ศุกร์ยี่สิบเอ็ดสวดอัปปะสัน
เกตุเก้าสวดชะยันโตเช่นโสกันต์
กำลังวันจบพิธีเท่านี้เอย