ธรรมวัตร นันทะวรการ : เรื่อง
ดรัณภพ แช่มมี : ภาพ

ฟังเสียงชุดมอญสะท้อนสังขละบุรี
นักท่องเที่ยวบนสะพานมอญรวมตัวกันถ่ายภาพในชุดมอญที่เช่ามาใส่

ผมเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น แล้วย้อนกลับขึ้นทางตรอกซอกซอยขนาดเล็กที่ต้องอาศัยความจำเพื่อนำทาง แม้จะวนเวียนอยู่ในพื้นที่นี้มาหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

ผมเริ่มคุ้นชินกับภาพเมืองไร้ตึกระฟ้า แต่เต็มไปด้วยบ้านเรือนเพื่ออยู่อาศัย ชุมชนไร้มลพิษที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตตามธรรมชาติ และเครื่องแต่งกายที่ไม่มีตราแบรนด์เนมราคาสูงลิบลิ่ว แต่เป็นเสื้อผ้าตามวัฒนธรรมของชาวบ้านมาตั้งแต่อดีต

สิ่งเหล่านี้ยังติดอยู่ในความรู้สึก ขณะผมหันเลี้ยวตรงหัวมุมซอยออกสู่ถนนหลัก ภาพฝูงชนเมื่อเช้าวันก่อนก็ผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง

ณ ถนนบริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ) อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ผมเดินทอดน่องลงมาตามถนนสายเล็กที่ทอดยาวสู่สะพานไม้เบื้องล่าง พลางกวาดตามองรอบตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าน้อยใหญ่ แต่ละร้านต่างเปิดรอรับลูกค้าให้เข้ามาเดินเลือกชมสินค้า โต๊ะเก้าอี้พร้อมชุดตักบาตรวางเรียงรายยาวตลอดสาย ผู้มารอใส่บาตรริมทางหนาตาท เมื่อผมมองลงไปบริเวณปลายถนนติดสะพานก็เห็นจำนวนคนที่มากขึ้นอีก

สิ่งที่เตะตามากสุดคือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เพราะเกือบทุกคนสวมชุดสีขาวแดง

“ชาวบ้านสวมชุดมอญมาใส่บาตรกันเต็มเลย แต่แน่ล่ะ วันอาสาฬหบูชาทั้งที”

ความคิดแรกของผมแวบขึ้นมา แต่ป้ายร้านค้าทั้งหลายที่เขียนว่า “เช่าชุดมอญ” บอกผมว่าคนที่สวมชุดมอญไม่ได้มีแค่ชาวบ้าน แต่ยังรวมถึงเหล่านักท่องเที่ยวด้วย

เมื่อเพ่งมองให้ละเอียดขึ้น ก็จริงอย่างที่คิด คนในชุดมอญหลายคนหอบหิ้วของพะรุงพะรัง เดินตามกันมาเป็นกลุ่มหรือเป็นครอบครัว บ้างหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปซ้ายขวาหน้าหลังอย่างตื่นเต้น บ้างหันกล้องถ่ายเซลฟีกับชุด บ้างก็เพลิดเพลินกับการเก็บภาพบรรยากาศตรงหน้า

เมื่อพระสงฆ์จากวัดวังก์วิเวการามเริ่มเดินลงมาตามถนน การทำบุญตักบาตรก็เริ่มต้นขึ้น ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างเฝ้ารอใส่บาตรกันอย่างตั้งใจ

“ชุดมอญเปลี่ยนจากวัฒนธรรมดั้งเดิมไปสู่การท่องเที่ยวตั้งแต่เมื่อไร และอย่างไร”

คำถามนี้ผุดขึ้นในหัวขณะผมเฝ้ามองฝูงชนในชุดมอญ

chudchao02
เหล่านักท่องเที่ยวและชาวมอญที่อำเภอสังขละบุรีรวมตัวกันรอใส่บาตร ในภาพจะเป็นทั้งชุดมอญแบบดั้งเดิมและประยุกต์
chudchao03
นักท่องเที่ยวในชุดมอญรวมตัวกันใส่บาตรในวันอาสาฬหบูชาที่สะพานมอญ

เสียงของผู้สวมใส่

สายฝนอ่อน ๆ พรำลงมา อากาศรอบตัวจึงชื้นขึ้นเล็กน้อย ผมก้าวลงสู่สะพานมอญอย่างไม่รีบร้อน ระหว่างทางประจันหน้ากับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินสวนกันไปม าชุดมอญสีขาวแดงผ่านตาผมไปนับครั้งไม่ถ้วน ส่วนมากจะหยุดตลอดทางเพื่อบันทึกภาพตนเองกับภูเขาซึ่งตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง สายหมอกที่รายล้อมอยู่รอบกาย แม่น้ำที่ไหลผ่านใต้ฝ่าเท้า และสะพานไม้เก่าแก่อายุกว่า 30 ปีที่กำลังเดินข้าม

“มาเที่ยวกันเหรอครับ” ผมเอ่ยถามครอบครัวใหญ่กลุ่มหนึ่ง จึงทราบว่าพวกเขาเพิ่งมาเยือนอำเภอสังขละบุรีเป็นครั้งแรกเพื่อพาพ่อแม่มาเที่ยว โดยสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่งมีเชื้อสายมอญบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร

“ภาษาพูดเหมือนกัน ส่วนการแต่งกายแถวโน้นเขาจะใส่สไบเฉียง สีคล้าย ๆ กันนี่แหละ” หญิงวัยกลางคนเชื้อสายมอญกล่าวถึงสิ่งที่มอญบ้านแพ้วและมอญสังขละบุรีมีร่วมกัน

“แต่แถวโน้นไม่มีให้เช่าชุดมอญ เขาใส่บ้านใครบ้านมัน”

ส่วนคู่รักนักท่องเที่ยวในชุดมอญบนสะพานบอกผมว่า

“ชุดเช่าจากร้านข้างหน้าสะพาน เพิ่งเช่ามาเมื่อกี้เลย เห็นร้านแล้วก็เข้าไป ราคาก็ไม่ได้สูง”

chudchao04
ผู้หญิงที่แสดงรำวงปี่พาทย์ นอกจากใส่ชุดมอญสีขาวแดงดั้งเดิมแล้ว การแต่งกายต้องมิดชิด เสื้อต้องแขนยาว และผ้าถุงต้องถึงข้อเท้า เพราะในอดีตเป็นการแสดงในวัง
chudchao05
ลูกหลานคนมอญที่กำลังจะจำศีล นำกับข้าวมาให้ทานเป็นประเพณี โดยผู้จำศีลจะต้องใส่ชุดสีขาวและผ้าถุงสีน้ำตาล และมีสร้อยลูกประคำไว้นับเพื่อทำสมาธิ

เสียงของผู้ค้าขาย

“แต่ก่อนซอยนี้เปลี่ยวมาก เมื่อราว ๆ 20 ปีที่แล้วมีแต่ชาวบ้านเดิน นักท่องเที่ยวน้อย”

“หน่อง” เจ้าของร้านโชซัน มองไปยังถนนที่เป็นทั้งหน้าร้านและหน้าบ้าน ที่นี่เป็นร้านเช่าชุดมอญพร้อมชุดตักบาตร อยู่ห่างจากสะพานมอญไม่กี่สิบเมตร นักท่องเที่ยวจะพลุกพล่านช่วงวันหยุดยาวหรืองานประเพณี

“ปี 2556 สะพานมอญพัง ถัดมาปีหนึ่งหลังบูรณะสะพานเสร็จ มีรายการท่องเที่ยว ยูทูบเบอร์ กองละครมาถ่าย มีการโปรโมตเรื่องการท่องเที่ยว กระแสการท่องเที่ยวก็เริ่มเยอะขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น”

หน่องเล่าถึงช่วงที่การท่องเที่ยวเริ่มเข้ามามีบทบาท ร้านขายของบริเวณสะพานมอญจึงหันมาให้บริการเช่าชุดตามกระแสของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น อย่างร้านโชซันนั้นดำเนินธุรกิจขายเครื่องประดับและเสื้อผ้ามาก่อน จึงเพิ่มการเช่าชุดมอญและชุดตักบาตรมาในภายหลังเช่นเดียวกับร้านอื่น

ผมปลีกตัวจากร้านโชซัน ก่อนมุ่งหน้าสู่ร้านวิณ อรัญญา ซึ่งเป็นร้านเสื้อผ้าของ “วิณ” ผู้ทำงานด้านวัฒนธรรมและจิตอาสาเกี่ยวกับมอญมากว่า 30 ปี

“ขาวแดงนี่เป็นสีประจำของมอญ เป็นชุดมอญของคนมอญเลย”

วิณเริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความสำคัญของสีขาวแดงบนชุดมอญ เสื้อสีขาวคู่โสร่งสีแดงสำหรับผู้ชาย และผ้าถุงสีแดงสำหรับผู้หญิง การตักบาตรในช่วงเช้าก็เป็นสิ่งที่ชาวบ้านปฏิบัติกันมาแต่เดิม

“มอญกลุ่มใหญ่สุด คือที่สังขละฯ ที่เดียวที่ยังคงวัฒนธรรมดั้งเดิมอยู่”

“เราเย็บชุดกันที่นี่ แต่ละบ้านที่เขาเย็บผ้า เราจ้างช่างที่เป็นชาวบ้านเพื่อตัดชุด”

อย่างไรก็ตามชุดของชาวบ้านกับชุดเช่านักท่องเที่ยวจะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แม้พื้นฐานจะเป็นสีขาวแดง แต่ชุดของชาวบ้านก็อาจประยุกต์ปรับเปลี่ยนสีและลวดลาย

“ชุดนักท่องเที่ยวใช้ทุกวัน จะใช้ผ้าซักง่ายและแห้งเร็ว เป็นผ้าพิมพ์ ถ้าของคนมอญจะใช้ผ้าทอ ลายเดียวกันเปลี่ยนแค่ผ้า นักท่องเที่ยวจะให้ใส่ขาวแดงเป็นหลัก ส่วนชาวบ้านเวลาไปวัด ไปงาน ไปรับคณะ จะใช้ขาวแดงเหมือนกัน หรือโอกาสอื่น ๆ อย่างทำบุญก็ใช้ขาวแดง แต่ก็มีหลากสีด้วย”

ภาพชาวบ้านบริเวณศาลาวัดวังก์วิเวการามช่วงสายของวันอาสาฬหบูชาผุดมาในหัว มีทั้งชุดสีขาวแดงแบบดั้งเดิม สีเขียว สีฟ้า สีม่วงแบบประยุกต์ และชุดขาวพร้อมผ้าถุงกับผ้าพาดบ่าสีน้ำตาลของผู้จำศีล (การนอนค้างวัด 1 คืน) แต่ละแบบต่างแสดงให้เห็นถึงการใช้งานหลากหลายของชาวมอญ

chudchao06
ก่อนคนมอญจำศีล จะมีงานตักบาตรดอกไม้ ซึ่งผู้คนจะนำดอกไม้ธูปเทียนมาถวายพระ

เสียงของผู้ตัดเย็บ

หลังลัดเลาะลึกจากถนนหลักเข้าสู่อาณาบริเวณของชุมชนช่างตัดเย็บ วิณพาผมไปยังบ้านของหนูจันทร์ ช่างตัดชุดผู้มากประสบการณ์กว่า 10 ปี

ลึกเข้ามาในตัวบ้าน จักรเย็บผ้าตัวหนึ่งตั้งอย่างโดดเด่น ตัดกับเสื้อผ้าหลากสีที่แขวนกองไว้ด้านหลัง

“ถ้าตัดเย็บรูปแบบเดิม ส่วนมากจะตัดให้ร้านที่สั่งตัดไปเพื่อขาย ชุดที่ตัดก็จะเป็นสไตล์แบบมอญดั้งเดิม”

หนูจันทร์อธิบาย ปรกติเธอจะตัดชุดแบบร่วมสมัยที่ผสมผสานระหว่างเสื้อผ้ามอญแบบดั้งเดิมกับความต้องการของลูกค้าซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่

“งานเข้ามาเรื่อย ๆ ช่วงสงกรานต์ ช่วงก่อนเข้าพรรษาก็จะเยอะหน่อย”

ความถี่ของคำสั่งตัดชุดมักสัมพันธ์กับเทศกาลสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งชาวบ้านก็จะเข้าวัดทำบุญ ความต้องการก็เพิ่มตาม

“ยิ่งช่วงปีใหม่ที่นักท่องเที่ยวมาก็จะมีการสั่งตัดชุดมากขึ้น” เธอเสริม

“อย่างน้อยคนที่ตัดเย็บก็มีงาน คนที่เอาไปขายก็ดี คนที่เช่าก็ได้ประโยชน์ ถือว่าเป็นการช่วยคนในชุมชนให้มีงานทำ เพราะชุดที่เช่านาน ๆ ไปมันเก่าก็ต้องสั่งตัดใหม่”

วิณพาผมเดินต่อมายังบ้านของ “ปุณณ์” ที่อยู่ลึกเข้าไปอีกเล็กน้อย บ้านชั้นล่างของเธอมีจักรเย็บผ้าสามตัว สองตัวเป็นจักรแบบเก่าที่ต้องใช้กำลังขาในการตัดเย็บ และอีกหนึ่งตัวเป็นจักรที่มีมอเตอร์ ข้างๆ เป็นราวแขวนเสื้อผ้าและกองผ้าที่รอการตัดเย็บ

“ชุดมอญมีหลายแบบ อย่างชิ้นนี้เป็นผ้าถุงมอญ” ปุณณ์หยิบผ้าถุงสีชมพูลายพิกุลออกมาให้ดู

“แต่ถ้าทั่วไปที่ใส่จะเป็นผ้าถุงสีแดง เสื้อสีขาว แต่คนเดี๋ยวนี้ชอบสีอะไรก็เลือกเอาสีนั้น แต่ก็ยังเป็นผ้าถุงมอญอยู่ แค่เป็นสีอื่น”

คำพูดของเธอสะท้อนความหลากหลายในยุคหลังที่ปรับเปลี่ยนสีสันและรูปแบบการใส่ให้เหมาะกับความชอบส่วนบุคคลและการใช้งาน

ปุณณ์หยิบเสื้อ ผ้าถุง และโสร่งหลายชิ้นมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ทั้งเสื้อสีขาวคู่กับผ้าถุงหรือโสร่งสีแดงแบบดั้งเดิม และแบบประยุกต์ดัดแปลงตามคำสั่งตัด พร้อมอธิบายขั้นตอนการตัดเย็บ ทั้งนี้เธอไม่ใช่ช่างตัดชุดเพียงผู้เดียวในบ้าน แต่ยังมียายของเธออีกคน ซึ่งตัดชุดด้วยวิธีโบราณ โดยจะไม่วัดตัวและใช้อุปกรณ์ละเอียดเท่าปุณณ์

“ลูกค้าเป็นคนพื้นที่ซึ่งจะไปวัดกัน อย่างก่อนวันอาสาฬหบูชา ชาวบ้านก็จะเอาผ้ามาให้ทำ เดี๋ยวเดือนกันยายนจะมีลอยเรือสะเดาะเคราะห์อีก แล้วช่วงออกพรรษากับตักบาตรเทโวอีก หรือทอดกฐินก็จะใส่ชุดไม่เหมือนกันเลย มีชุดหลายแบบมาก ๆ ”

คำบอกเล่าของเธอสะท้อนวัฒนธรรมชาวมอญที่สัมพันธ์กับเครื่องแต่งกายและประเพณีทางพุทธศาสนาอย่างเข้มข้น

แม้ว่าการท่องเที่ยวกับชุดมอญจะเข้ามาในอำเภอสังขละบุรีราว 10 กว่าปีเท่านั้น แต่บทบาทสำคัญหนึ่งคือการมอบรายได้ให้อาชีพช่างตัดเย็บของชาวบ้าน

“ดีตรงที่ว่าเราอยู่บ้าน มันก็จะเป็นรายได้ให้เรา” ปุณณ์ยืนยัน

“มันเป็นชุดประจำชาติเรา ก็ภูมิใจนะ ดูไปมันก็สวย เวลาเขาใส่มาเขาชอบ คนไทย นักท่องเที่ยวจากที่อื่นมาใส่ชุดมอญ มาเดินหมู่บ้านเรา พอมองไปมันก็ภูมิใจ”

ปุณณ์ทิ้งท้ายในฐานะผู้ตัดชุดและชาวมอญคนหนึ่ง

ผมกล่าวคำขอบคุณและอำลา ภาพฝูงชนเมื่อเช้าวันก่อนผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง

ชุดมอญสีขาวแดงแบบดั้งเดิม นักท่องเที่ยวและชาวบ้านที่กลมกลืน บรรยากาศเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา พร้อมใบหน้าของครอบครัวนักท่องเที่ยว คู่รักนักท่องเที่ยว หน่อง วิณ หนูจันทร์ ปุณณ์ และทุกคนที่ทำให้ชุดมอญยังมีชีวิต

สิ่งเหล่านี้ยังติดอยู่ในความรู้สึก ขณะผมเลี้ยวตรงหัวมุมซอยเพื่อออกสู่ถนนหลัก

วันนี้ชุมชนมอญสังขละบุรีสามารถผสานวัฒนธรรมดั้งเดิมให้เข้ากับบริบทการท่องเที่ยวได้อย่างดี มอบโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนรู้และซึมซับความเป็นมอญผ่านการเช่าชุด พร้อมสัมผัสวิถีชีวิต

แต่ในอนาคต ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะรักษาสมดุลนี้ต่อไปได้อย่างไร

ขอขอบคุณ

  • วิณ เจ้าของร้านวิณ อรัญญา
  • หน่องและโช เจ้าของร้านโชซัน
  • หนูจันทร์และปุณณ์ ช่างตัดเย็บ
  • มะข่าย ส้ม และมุขไข่ เจ้าของร้านเสื้อผ้า
  • เจน แม่ค้าปลาแห้งบนถนนสะพานมอญ
  • นักท่องเที่ยวทุกคนที่ให้ข้อมูลแก่ผู้เขียน