Page 183 - Skd 298-2552-12
P. 183

เจดยี บ์ รรจอุ ัฐิพระอาจารย์ชา สุภัทโท
                                                      แหง่ วดั หนองป่าพง อ. เมอื งอุบลราชธานี  (ภาพ : วจิ ิตต์ แซเ่ ฮง้ )

                                                      คนอีสานมีค�ำกล่าวว่า “ถ้าอยาก
                                                      เปน็ นกั มวยใหไ้ ปโคราช หากอยาก
                                                      เปน็ นักปราชญ์ให้มาอุบลฯ”                                                                                                                        202

                                         คำ� กลา่ วนมี้ ไิ ดเ้ กนิ จรงิ  เพราะ                 คนจม(ช.ราักาูสเแอวปลตบุ ็นาอ่งลเ.รจ พคอา.ณุลำ�ชอนงธวลำ�าาฒุ นูกจนิทาเี จจกุ่งรเช่อจิญ่อืนรดแิญังย)กออก         อ
                                     เมืองอุบลเต็มไปด้วยนักปราชญ์                                                                                                                                      อ. กดุ ขาŒ วป
                                     ทั้งทางโลกและทางธรรม                                      (ภาพ : วจิ ิตต์ แซเ่ ฮ้ง)
   ครสู ลา คณุ วฒุ  ิ นกั แตง่ เพลงลกู ทงุ่ อจั ฉรยิ ะ  หมอลำ� คณู และหมอลำ� จอมศร ี ครเู พลง
หมอลำ� ทไ่ี ดร้ บั การบนั ทกึ แผน่ เสยี งในชว่ งหลงั สงครามโลกครง้ั ท ี่ ๒  
หมอลำ� ฉววี รรณ พนั ธ ุ ศลิ ปนิ แหง่ ชาตปิ  ี ๒๕๓๖  อสุ า่ ห ์ จนั ทรวจิ ติ  
และ ประดบั  กอ้ นแกว้  ศลิ ปนิ ชา่ งเทยี นผทู้ ำ� ใหง้ านประเพณแี หเ่ ทยี น                                     2050
พรรษาเปน็ ท่ีรจู้ กั   ดร. บำ� เพญ็  ณ อบุ ล  ปรชี า พณิ ทอง ปราชญ์                       212 อ. ตระการ
ทางประวัติศาสตร์ ภาษาและวรรณกรรมท้องถ่ิน  บุคคลเหล่าน้ี                        23 อ. ม‹วงสามสิบ 2
ลว้ นเป็นชาวอุบลราชธานี
อุ บ ล รปขแ(ชวภจภหอิป่า.ารูา บงอพลทิวัสปุ่ง่งุบไตัส:ปอลทลโวนาา่าตยจิรหนทาติา แาก�้ำตาแชลรจ์มรลธแแะืดรซาะลชใมเ่นพฮะนาฐ้งีวรแว)าาะมลนงอน่าไา ขว�้ำ จมล่ ใานู้นวร นยป ช์เัจคาจา ุบสรัพนภุ พทัศสโอแดโรลร.า ทยัโทมะะพ เปอพธฉตธลาาันพิ์ไ่าจาสโทางบบา�ำะรมกกึรเปนีรเใยลป็จนวิ ์ทาน็าลลก้ังสแ�ำุนดพหสน รถลำ้�ปพะโง่าลขรจอนางะบัาเแสดจปคงิมาล้ ฆราอย์ฝย์ม่าู่ใ่ันนย  จอป(ภ.าลา โกพาขแนง:มาเวจน่นจิ ีย�้ำาิตมมชต ์นูนแ ิดบซเ่รฮิเง้ ว)ณพแิพสธิ งภสัณว‹าวฑงัดอสอศ.ถารเราขนี มนื่อวณแลงศหใ านง‹ ลชาากตลิ าองอวบุ ทจดั2.ลงังุ‹เ2ท2รมหศ61ง‹ุอาือวร7ศช.ีเัดง8รสมธวีเาดัำอืมนโหงือรีนงงออง.ปวหา†าพอารดิน.งเวชหบัดำลาŒใรตน‹าาเŒปบสอาแอื.กดโอมนก.‹อ้ำอนŒกนน.ํ้ าามสเวดยมา‹ยี
ส่วนทางธรรมน้ัน ในยุคสร้างบ้านแปงเมือง ชาวพุทธทั้ง 

                                                                                                                                       อ. เดชอ
                                                                                                                           24

                                                                                                                             อ. ทง‹ุ ศรอี ดุ ม

                                                                                                                           2214
                                                                                                                             อ. น้ำข‹นุ
                                                                                                                                  อ. นำ้ ยืน

ตเป้มุ น็ ปเคลารอื่ยงอมนือขหนาาปดลใหาใญน่แม่นำ�้ มนู

   แก่งหิน หาดทราย ฝูงปลา มีความเก่ียวโยงเป็นระบบนิเวศ 
ที่น่าสนใจ ดังเช่นที่ อ. เขมราฐ และ อ. โขงเจียม ซ่ึงได้ชื่อว่าเป็น
แหล่งปลาแซบหลายน้ัน เป็นบริเวณที่พบปลาน�้ำจืดหลายชนิดใน
ปริมาณมาก พ้ืนท่ีจะสมบูรณ์ด้วยป่าบุ่งป่าทามที่เป็นท้ังแหล่ง
อาหารของปลาและท่ีวางไข่  นอกจากนี้ในล�ำน�้ำยังเต็มไปด้วย 
เกาะแก่ง รวมถึงโบก (หลุมลึกบนพื้นผิวหินท่ีเกิดจากกระแสน้�ำ
กัดกรอ่ น) ซง่ึ เป็นทีอ่ าศัยวางไข่ของปลาบางชนิด

ฉบบั ที่ ๒๙๘  ธันวาคม ๒๕๕๒                            นติ ยสารสารคดี 189 แกง่ ตะนะกลางล�ำน้�ำมนู อ. โขงเจียม  (ภาพ : วจิ ิตต์ แซ่เฮ้ง)
   178   179   180   181   182   183   184   185   186   187   188