Page 151 - Skd 365-2558-07
P. 151

เตรยี มงาน ลอ้ มวงกนิ ขา้ ว หรอื สงั สรรคก์ นั ยามผอ่ นคลาย  โดยมี                      “สง่ิ ที่เกดิ ขนึ้ กบั คณุ -กลมุ่ ดาวดนิ เมอื่  ๒-๓ วนั กอ่ น ทำ� ใหอ้ าตมา
ครัวแบบอีสานอยู่มุมหน่ึง  เป็นท่ีนึ่งข้าว  ท�ำลาบ  ก้อย  ต้ม  ส้มต�ำ
ลวกจมิ้ กนิ ดว้ ยกนั   ผนงั อกี ดา้ นเปน็ ชนั้ หนงั สอื ซงึ่ ดมู ที วี่ า่ งอยมู่ าก  หวนนกึ ถงึ นกั ศกึ ษาประชาชนกลมุ่ หนง่ึ ซงึ่ แจกใบปลวิ เรยี กรอ้ งรฐั ธรรมนญู
และโดยรอบแทบทุกด้านประดับธงและป้ายรณรงค์จากงาน                                        แต่กลับถูกรัฐบาลทหารสั่งจับกุมคุมขังด้วยข้อหาร้ายแรง  จนเป็นชนวน
กิจกรรมตา่ ง ๆ ทผี่ ่านมา                                                             ใหเ้ กดิ เหตกุ ารณ ์ ๑๔ ตลุ าฯ ในเวลาตอ่ มา  ผา่ นไป ๔ ทศวรรษ เมอื งไทย
                                                                                      น่าจะเลยจุดนั้นไปไกลแล้ว  ไม่น่าเช่ือว่ามาถึงวันน้ีผู้ท่ีเรียกร้องประชา-
    นอกชายคาดา้ นขา้ งและหลงั บา้ นเปน็ ลานใตร้ ม่ ไมม้ แี ครไ่ มไ้ ผ่                ธปิ ไตยโดยสนั ตวิ ธิ กี ย็ งั ถกู จบั กมุ คมุ ขงั อกี  ราวกบั วา่ บา้ นเมอื งหวนกลบั ไป
และผกู เปลระหวา่ งตน้ ไม้ ไวเ้ ปน็ มมุ นงั่ เลน่ และรบั แขก  มลี านดนิ                สู่จุดเดิม  ต่างกันก็ตรงที่คราวน้ีไม่มีประชาชนมากมายลุกขึ้นมาประท้วง
สำ� หรบั กอ่ กองไฟและตง้ั เตน็ ทไ์ ด ้  เพอื่ นนกั กจิ กรรมหรอื ใครตอ่ ใคร            การจับกุมหรือสนับสนุนการเรียกร้องของคุณ  น้ีแสดงว่ายุคสมัยเปล่ียน
ทมี่ าเยือนบา้ นดาวดินคงคุ้นเคยมมุ นี้                                                แปลงไปมากแล้ว แตน่ ่นั ไมใ่ ชเ่ หตผุ ลที่ผูร้ ักประชาธิปไตยควรท้อแท้

    “เป็นที่รวมตัวท�ำกิจกรรม  ท่ีประชุม  ที่กินอยู่หลับนอน  ท่ีกิน                        “แมว้ า่ มคี นจำ� นวนมากทไี่ มเ่ หน็ ดว้ ยกบั สง่ิ ทค่ี ณุ ทำ�  คำ� วพิ ากษว์ จิ ารณ์
ดื่มเฮฮา”  โต้ง  สมาชิกหลักคนหน่ึงพูดถึงบ้านดาวดิน  และว่า  “น่ี                      กม็ าก แตผ่ มู้ จี ติ ใจประชาธปิ ไตยยอ่ มถอื วา่ เปน็ ธรรมดา เมอ่ื ตอ่ สเู้ พอ่ื สทิ ธิ
อาจเปน็ ขอ้ ไดเ้ ปรยี บกวา่ เพอื่ นนกั กจิ กรรมกลมุ่ อนื่  ตรงทเี่ รามบี า้ น         เสรีภาพ  ก็ต้องตระหนักว่ามันหมายรวมถึงสิทธิเสรีภาพของผู้อ่ืนในการ
กลุ่มอื่นหาที่รวมหมู่ยาก  ห้องชมรมของมหา’ลัยบรรยากาศมัน                               วิพากษว์ ิจารณเ์ รา หรือแมก้ ระทัง่ ตอ่ ว่าด่าทอเราดว้ ย  อย่างไรกต็ ามหาก
ไมไ่ ด ้ จะใช้นอกเวลาก็ไมไ่ ด้”                                                       ทำ� ดว้ ยความบรสิ ทุ ธใิ์ จกไ็ มพ่ งึ หวน่ั ไหวคลอนแคลนกบั เสยี งเหลา่ นน้ั   มอง
                                                                                      ให้ดีเสยี งวิพากษ์วิจารณ์กม็ ปี ระโยชน ์ ทง้ั ต่อตัวเราและกจิ กรรมทีท่ ำ�
    แท็กเสริมว่า  “รุ่นพ่ีคงศึกษามาจากขบวนการนักศึกษายุค
กอ่ นวา่ ตอ้ งมพี น้ื ทก่ี ลางเปน็ ทร่ี วมตวั  ทเี่ ขาเรยี กการใชช้ วี ติ รวมหมู่         “จะว่าไปแล้ว  เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการกระท�ำของคุณ  ก็
พอเหน็ วา่ ใช้ได้จริงก็ทำ� ต่อกนั มาเร่ือย”                                           ไม่ส�ำคัญเท่ากับสามัญสำ� นึกที่ว่า การแสดงความเห็นต่างมิใช่ความผิดท่ี
                                                                                      สมควรถูกจับกุมคุมขังหรือตีตรวน  แต่แม้ผู้คนจำ� นวนมากยังไม่ตระหนัก
    ทั้งมีการส่งต่อวิธีคิดและการเปิดรับคนใหม่ ๆ  เข้ามาเรียนรู้                       ถึงหลักการดังกล่าว  ก็ขอให้คุณอย่าได้โกรธเกลียดเขา  ขอให้มีความหวัง
แลว้ สรปุ บทเรยี นรว่ มกนั   “ใชก้ จิ กรรม ใชก้ ารชกั ชวนวา่ มกี ลมุ่ นน้ี ะ          ว่าคนเราน้ันเปลี่ยนแปลงได ้  สักวันหน่ึงผู้คนจะเข้าใจในส่ิงที่คุณทำ�  หรือ
ท่ีท�ำอะไรแบบนี้   ตอนมีน้องใหม่ไปลงคณะ  เราก็ไปแนะน�ำตัว                             อยา่ งนอ้ ยกต็ ระหนกั วา่  คกุ ไมค่ วรมเี พอื่ ขงั ผทู้ เ่ี หน็ ตา่ ง  ขอใหร้ ะลกึ วา่ พลงั
บางส่วนน้องก็เข้ามาเอง   เราเป็นกลุ่มที่ไม่ได้จดทะเบียนกับ                            สำ� คญั อยา่ งหนงึ่ ของสนั ตวิ ธิ  ี คอื การชนะใจผคู้ นดว้ ยความรกั  ความอดกลน้ั
มหา’ลยั  ไมเ่ ปน็ ทางการ ไมจ่ ำ� กดั คณะ  บางคนมาลองดดู ว้ ยความ                      และพร้อมรับความเจ็บปวดโดยไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงหรือความ
หม่นั ไส้ก็ม ี ดว้ ยความอยากรู้ก็ม”ี                                                  เกลียดชัง  น้ีคือพลังที่มีอานุภาพแห่งการเปลี่ยนแปลงยิ่งกว่าอาวุธหรือ
                                                                                      อำ� นาจดิบเสียอกี ”
    “อยากเข้า  มข. ก็เพราะมีพ่ีดาวดินอยู่ท่ีนี่”  ค�ำสารภาพของ
เฟรม  นักศึกษานิติศาสตร์ปี  ๔  และเป็นสมาชิกดาวดินมายาว                                                 พระไพศาล วสิ าโล
นานเท่าการเป็นนักศึกษา   “ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินค�ำว่าสิทธิ
มนุษยชน  จนตอนเรียน  ม. ปลายไปค่ายเจอพ่ีภพ  ก็เพิ่งได้ยิน
ตอนนนั้ ”

    จากหมบู่ า้ นเกดิ ในจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ มาเขา้ มหาวทิ ยาลยั รนุ่ พ่ี
ชวนไปลงพ้ืนท่ีในหมู่บ้านชนบทท่ีหนองบัวล�ำภู “ท�ำลายภาพเดิม
ในหัวหมดเลยว่าค่ายนักศึกษาต้องเป็นค่ายสร้าง  มันฉีกทุก
ประสบการณ์เดิมท่ีเคยเจอเคยเห็น  ได้รู้เรื่องปัญหาของชาวบ้าน
จากที่เขามาพูดมาเล่าให้ฟัง  จนเรารู้สึกว่าจะไปใช้ชีวิตปรกติ
ตามท่ีครอบครัวคาดหวังให้รับราชการไม่ได้   รู้แล้วต้องท�ำอะไร
สักอยา่ ง ตอ้ งเรยี นเอาความร้ไู ปช่วยชาวบา้ น”

    เช่นเดียวกับโต้ง  อดีตเด็ก  ม. ปลายจากอุบลราชธานี
“สอบโควตาเข้าคณะนิติศาสตร์  มข. เม่ือปี  ๒๕๕๓  มาเจอรุ่นพี่
ดาวดินท�ำกิจกรรมกันอยู่ที่คณะ  ก็เร่ิมต้ังค�ำถามว่าท�ำไมแต่งตัว
ไมเ่ รียบร้อย ผมเข้าใจว่านักกฎหมายต้องแต่งตัวเน้ียบ ก็อยากรู้
ว่าเขาคิดอะไรกันอยู่   เข้าไปตอนแรกพ่ีก็พาลงพ้ืนท่ีเลย  กลับมา
คุยแลกเปล่ียนกัน ทำ� มาต่อเน่ืองจนมาอยู่บา้ นดาวดินตอนป ี ๒”
   146   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156