Page 152 - Skd 365-2558-07
P. 152
“ผมเห็นว่า เด็กก็เป็นตัวของเขาเอง ถ้าเขาจะพูดอะไรเกิน สว่ นเฟริ น์ เดก็ สาวจากปทมุ ธานที สี่ อบตดิ คณะนติ ศิ าสตร ์ มข.
เลา่ วา่ “พช่ี วนมานง่ั ทกี่ ลมุ่ พาลงพน้ื ท ี่ เหมอื นชอ็ ก เราอยใู่ นเมอื ง
เลยไป ผู้ใหญ่ก็ควรจะหูหนัก รับฟัง ยิ่งมีอ�ำนาจอยู่เต็มมือด้วยแล้ว โรงเรียนพาไปทัศนศึกษาไปดูเข่ือนว่ามันผลิตไฟฟ้า แต่พอมา
การใช้ขันติธรรมย่อมเป็นคุณงามความดีของผู้มีอ�ำนาจ ถ้าเด็กจะพูด เห็นอีกมุมท�ำให้เราต้ังค�ำถามข้ึนมาว่ามันถูกสร้างเพ่ือใคร เพราะ
ปลุกระดมอะไรตา่ ง ๆ หากค�ำปลกุ ระดมนนั้ ๆ เหลวไหลไรส้ าระ ผคู้ นกจ็ ะ ชาวบ้านรอบเขื่อนไมม่ ไี ฟฟา้ ใช้กนั เลย”
หวั เราะเยาะเดก็ พวกนไ้ี ปเอง ถา้ เดก็ พวกนพี้ ดู จามสี าระ มนี ำ�้ หนกั ในการ
วพิ ากษว์ ิจารณ ์ ควรเชิญเขามาปรึกษาหารอื พดู จาด้วย” เธอดูว่าเป็นกิจกรรมท่ีน่าสนใจ “ก็เลยอยากคุยต่อ เป็นพ้ืนท่ี
ทเี่ ราแลกเปลย่ี นกนั ได ้ วพิ ากษว์ จิ ารณก์ นั ได ้ ไมว่ า่ เปน็ รนุ่ พร่ี นุ่ นอ้ ง
ส. ศิวรกั ษ์ พอคุยให้เพือ่ นฟัง เพือ่ นตกใจวา่ แน่ใจหรือวา่ จะอย่ดู าวดิน”
“ ส่ิ ง ท่ี คุณท�ำมีความส�ำคัญอย่างย่ิง การท่ีคุณลุกข้ึนมาบอก “ภาพของเด็กนิติศาสตร์ มข. เป็นพวกหัวรุนแรงอยู่แล้ว ย่ิง
กลมุ่ ดาวดนิ เราท�ำกจิ กรรมแนวนด้ี ว้ ยกย็ ง่ิ ไปกนั ใหญ”่ ไผส่ ารภาพ
สงั คมวา่ เผดจ็ การทหารไมแ่ กป้ ญั หา ตวั ของมนั เองนน่ั แหละทเ่ี ปน็ ปญั หา พร้อมยกตัวอย่าง “เราชูประเด็นเรื่องชาวบ้าน พูดเรื่องการเมือง
แค่นกี้ เ็ ป็นความกลา้ หาญท่ีคนรุ่นผมจะตอ้ งแสดงความนับถอื อย่างสงู เขากม็ องวา่ หวั รนุ แรง ระบบโซตสั ในมหาวทิ ยาลยั เรากไ็ ปแอก็ ชนั
เขาก็ย่งิ วา่ หัวรนุ แรง”
“แตท่ เ่ี หนอื กวา่ การออกมาบอกวา่ การรฐั ประหารของเผดจ็ การทหาร
น้ันไม่แก้ปัญหา และตัวมันเองยังเป็นปัญหา อีกสิ่งหน่ึงที่มีความส�ำคัญ และอกี กรณีที่ดาวดินมบี ทบาทอย่างส�ำคัญ
มากคอื เผดจ็ การทหารทำ� ใหอ้ ำ� นาจตอ่ รองของประชาชนเลก็ ๆ จำ� นวนมาก “ตอนมีนโยบายมหาวิทยาลัยนอกระบบก็ว่าเราปิดถนน
ในสังคมหายไปหมดเลย แม้แต่ในระบอบประชาธิปไตยปรกติพวกเขา มิตรภาพท�ำให้ผู้สัญจรเดือดร้อน แต่ก่อนหน้านั้นเราท�ำทุกทาง
ก็มีอ�ำนาจต่อรองน้อยอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ภายใต้เผด็จการทหาร อ�ำนาจ แล้ว ตั้งแต่เจรจา ยื่นหนังสือ แต่งตัวตลกไปยืนชูป้าย ตะโกน
ต่อรองท่ีมีอย่นู ้อยนิดกลับหมดไปเลย ทีละค�ำ จนถึงชุมชนเป็นเครือข่าย ๑๕ มหาวิทยาลัย โดยดาวดิน
เป็นเจ้าภาพ”
“ประเด็นเรื่องคนเล็ก ๆ ถูกรังแก ไม่ค่อยมีคนสนใจ จนกระทั่งพวก การเคล่ือนไหวคัดค้านนโยบายมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ
คุณช้ีให้เห็นถนัดมากข้ึนว่า คนเล็ก ๆ ภายใต้เผด็จการทหารคือคนท่ีรับ ในคราวนั้นเป็นข่าวใหญ่ไปท่ัวประเทศ และเป็นท่ีน่าสนใจว่า
เคราะห์กรรมมากท่ีสุด และตรงน้ีผมก็ต้องขอขอบพระคุณพวกคุณทุก ๆ การเคลื่อนไหวต่อต้านนโยบายเกี่ยวกับระบบการศึกษาครั้งน้ี
คนท่ีท�ำให้สังคมตระหนักว่า เราปล่อยให้เผด็จการทหารรังแกคนเล็ก ๆ มีศูนย์กลางอยู่ท่ี ม. ขอนแก่น แทนท่ีจะอยู่ในส่วนกลางอย่างท่ี
เหล่าน้ตี ่อไปไมม่ ที ี่สิน้ สุดไม่ได้ ขอบพระคณุ มาก” แล้ว ๆ มาโดยส่วนใหญ่ ทั้งน้ีก็เพราะมีกลุ่มดาวดินเป็นหัวหอก
ส�ำคญั
นิธ ิ เอียวศรวี งศ์ พวกเขาบอกว่า “รุ่นพี่ต่อสู้กันมาต้ังแต่ปี ๒๕๔๙ เราก็ต้อง
ตอ่ สูเ้ พอื่ รนุ่ น้องตอ่ ไป อย่าให้พวกเขาต้องจา่ ยค่าเทอมแพง”
การต่อสู้เพ่ือคนรุ่นหลังครั้งน้ัน มหาวิทยาลัยขู่จะลงโทษ
ทางวนิ ัย สุดทา้ ยกไ็ มไ่ ด้ท�ำ
“การแปรรูปมหาวิทยาลัยท�ำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ลูกคนจน
ไม่มีสิทธิ์เรียน แต่อีกแนวคิดหน่ึงว่ามหาวิทยาลัยของรัฐค่าเรียน
ถูกแต่ล้าหลัง ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เราเลยว่าต้องหยุดไว้ มา
คยุ กนั กอ่ น และนกั ศกึ ษาควรไดม้ สี ว่ นรว่ มออกแบบหลกั สตู รดว้ ย”