Page 33 - Skd 365-2558-07
P. 33
033
โอชะดว้ ย ล่วงสู่เที่ยงวัน ลุงม่วงชวนไปกินข้าวท่ี เขาอีกน่ันละท่ีปลูกไว้มากราว ๓๐ ต้น น�้ำ
เสรจ็ กจิ วตั รใหอ้ าหารไก ่ ลงุ มว่ งจงู ควาย บ้านพ่ีชายซึ่งอยู่คนละหมู่ แต่ไม่ห่างจาก มะพร้าวอ่นุ แต่ซดแล้วเย็นใจไม่แพ้ลมทห่ี ม่นั
บ้านลุงนัก ระหว่างทางผ่านที่ดินของชาว โบกโบยความสดชนื่ แก่ผู้มาเยอื น
ไปอาบน้�ำในสระขนาดใหญ่ท่ีขุดไว้เลี้ยงปลา ชุมชนซึ่งนิยมปลูกข้าวโพดเล้ียงสัตว์และ
เดิมเขาเลี้ยงอยู่สามตัว วันท่ีเรามามีคนน�ำ พืชเศรษฐกจิ เชิงเด่ยี วอน่ื ๆ อยากน่ังทอดอารมณ์สูดกล่ินธรรมชาติ
เจา้ ควายนอ้ ยวยั ขวบเศษมาเพม่ิ ใหอ้ กี สองตวั นานกวา่ น้ี แตท่ อ้ งเรมิ่ สง่ เสยี งประทว้ งเรง่ ให้
“พวกเขาเลือกจะปลูกเพื่อขาย แล้วก็ รบี ลกุ จากกระทอ่ มเมอ่ื ใครสกั คนตะโกนเรยี ก
“แถวนี้ส่วนใหญ่ใช้รถไถท�ำไร่ท�ำนา ต้องจา่ ยเงินซอ้ื ข้าวปลาอาหาร” จากฝงั่ ตรงขา้ มใหก้ นิ ขา้ วกนั เถอะ
กันหมดแล้ว เขาว่าเลี้ยงควายเป็นงานหนัก
เหมน็ สาบดว้ ย เหลอื เรานลี่ ะยงั เลยี้ งควายไว้ เสยี งแคน่ หวั เราะของลงุ มว่ งตอนคยุ กนั “ลองกินหน่อข่าจิ้มน้�ำพริกสิ อื้อหือ
ใช้เป็นแรงงาน ก็ไม่ต้องดูแลยุ่งยากอะไรน่ี ในสวนเม่ือครู่ยงั ชัดเจนในใจ อรอ่ ยอยา่ บอกใคร”
แค่เล้ียงไว้ในคอก หญ้าก็มีอยู่รอบบ้าน ตก
เย็นแดดอ่อนอาจพาลงท้องนากินหญ้าอ่อน เปน็ ตลกรา้ ยทเ่ี กดิ มานาน แตเ่ กษตรกร “ปลานิลเผาตัวโตๆ นี่พี่ชายลุงม่วง
แชน่ �ำ้ บา้ ง ขค้ี วายยงั เปน็ อาหารปลาใหอ้ ว้ น รนุ่ ใหมไ่ มก่ ลา้ พอจะทา้ ทายระบบผกู ขาด จน เล้ียงเองทั้งน้ัน จะกินกี่ตัวก็ได้นะ บนเตา
พี แล้วเวลาจะยืมเงินใครนี่นะ เขาจะดูจาก คล้ายกับว่ามีเพียงบ้านลุงม่วงที่ยังล้อมวิถี ถา่ นยงั มอี ีก”
จ�ำนวนสัตว์เล้ียงเพราะชีวิตมันเปล่ียนเป็น ดั้งเดิมไวอ้ ยา่ งผดิ แผกสังคม
เงินได้ ถ้าบ้านไหนขาดสัตว์เล้ียงก็เหมือน “ข้าวเจ้าหอมมะลินี่จากนาบ้านลุงม่วง
ไรห้ ลกั ประกัน ไม่มีใครอยากให้กู้ยืม” เผลอตะเบ็งเสียง ว้าว ! ในใจเม่ือรถ เอง เพิ่งเก็บเก่ียวเมื่อ ๓ เดือนก่อน หอม
เทียบจอดหน้าบ้านพี่ชายลุงม่วง ซึ่งมีพื้นท่ี อรอ่ ยไหมล่ะ”
ส่ิงที่บรรพบุรุษพร�่ำสอนท�ำให้เขาเชื่อ กว้างใหญ่ไม่น้อยหน้าบ้านน้องชาย แม้
ม่ันว่า ต่อให้สังคมนอกบ้านเป็นอย่างไร คน ไม่ครึ้มแบบสวนป่า แต่ครบครันด้วยพืช- อีกหลายบทสนทนาพร่ังพรูในวงที่เรา
ท่ีพึ่งพาตนเองได้เร่ืองอาหารการกินจะไม่มี สัตว์อาหารในรว้ั บา้ น ตา่ งเปบิ ขา้ วดว้ ยมอื แทนชอ้ น เปน็ มอ้ื ซงึ่ กลา้
วนั อดตาย กินเต็มที่จนอิ่มหน�ำพุงเต่งตึง โดยเจ้าบ้าน
ขณะเจา้ บา้ นสาละวนเตรยี มมอ้ื กลางวนั กไ็ ม่ได้ส้ินเปลืองเงินทองซอื้ ของมาเลี้ยงดู
“ทกุ วนั นล้ี งุ มว่ งแทบไมไ่ ดซ้ อื้ อาหารเลย รับรองแขก ลุงม่วงพามาเอกเขนกบน
ผักผลไม้ ข้าว ปลา ไก่ ไข่ มีพออยู่พอกิน กระท่อมไม้ไผ่ริมน�้ำ ช้ีชวนชมสระใหญ่ทั้ง ลกึ ไปกวา่ เรอ่ื งอาหาร วถิ เี ปน็ อยสู่ ดุ แสน
ในบ้านครบ นานๆ นึกอยากกินเนื้อหมูถึง หกเจ็ดสระรอบบ้าน แล้วอวดแทนพี่ชายว่า ธรรมดาของผู้เดินตามบรรพบุรุษยังสอนเรา
จะซ้ือ ถ้าเราอยู่แบบพอเพียงท�ำไมจะอยู่ ทกุ สระมปี ลานลิ เยอะแยะจนกนิ -ขายไมห่ มด โดยนยั
ไม่ได้”
สักเดี๋ยวลุงม่วงก็เฉาะมะพร้าวน้�ำหอม หากไมต่ อ้ งการใหช้ วี ติ ถกู ระบบผกู ขาด
ลูกโตที่เก็บจากในสวนแบ่งให้ชิม พ่ีชายของ คุกคาม เกษตรกรต้องกล้าก�ำหนดความ
มนั่ คงดว้ ยตนเอง •
July2015