Page 152 - Skd 373-2559-03
P. 152
Ww“Leea dhdiaiedvs e ia td n!”edt egcetendtl egmraevni,t ational waves. Dshoocrtดร. บญั ชา ธนบญุ สมบตั ิ
wbuwnwc.hfaac2e5b0o9o@kg.cmoamil/.bcoumncha2509
“ท่านสุภาพสตรแี ละสภุ าพบุรุษ
เราตรวจจบั คลน่ื ความโนม้ ถ่วงได ้ เราท�ำสำ� เรจ็ !”
นี่คือค�ำกล่าวของศาสตราจารย์เดวิด ไรต์ซ (Prof. David ภาพ : R. Hurt/Caltech-JPL เว็บไซ ์ต http://www.jpl.nasa.gov/news/news.php?feature=5137
Reitze) ผู้อ�ำนวยการห้องปฏิบัติการไลโก (LIGO Lab Executive
Director) ในการแถลงข่าวของมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ-
อเมริกา (National Science Foundation - NSF) เมื่อวันท่ี ๑๑
กุมภาพันธ์ ค.ศ. ๒๐๑๖ เก่ียวกับการตรวจจับคล่ืนความโน้มถ่วง
ไดเ้ ป็นครั้งแรก
ค�ำกล่าวนี้และน้�ำเสียงอันต่ืนเต้นบ่งบอกถึงความย่ิงใหญ่ของ
การคน้ พบครงั้ สำ� คญั
คลน่ื ความโน้มถว่ งคืออะไร ส�ำคัญอย่างไร
ท�ำไมถึงต่ืนเต้นกันนัก ? ไม่ใช่เพียงแค่นักวิทยาศาสตร์ แต่
สำ� นกั ขา่ วท่วั โลกต่างรายงานข่าวอยา่ งครกึ โครมด้วย
เหตุท่ีต้องตื่นเต้นประการหน่ึงก็เพราะผ่านไปเกือบ ๑๐๐ ปี
พอดีนับจาก อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพท่ัวไป
ในวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ค.ศ. ๑๙๑๕ และต่อมาตีพิมพ์บทความ
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. ๑๙๑๖ ซึ่งใช้ทฤษฎีน้ีท�ำนายถึงการมีอยู่
ของคลน่ื ความโนม้ ถว่ ง และในทสี่ ดุ หลงั จากพยายามมาหลายสบิ ปี
ก็สามารถตรวจจับคล่ืนความโน้มถ่วงโดยตรงได้เป็นครั้งแรกเม่ือ
วันที ่ ๑๔ กันยายน ค.ศ. ๒๐๑๕
ทฤษฎสี มั พทั ธภาพทวั่ ไปของไอนส์ ไตน ์ (Einstein’s General
Relativity) ท�ำนายถึงปรากฏการณ์หลายอย่าง เช่น การที่เวลาเดิน
ช้าลงบริเวณที่มีสนามความโน้มถ่วงสูง การเดินทางของแสงเป็น
เส้นโค้งเม่ือเฉียดใกล้ดาวฤกษ ์ การขยายตัวของเอกภพ เลนส์ความ
โน้มถ่วง หลุมด�ำ ฯลฯ ซ่ึงได้รับการค้นพบแล้วว่ามีอยู่จริงท้ังหมด
เหลือเพียงส่ิงเดียวคือ “คลื่นความโน้มถ่วง” ที่ยังไม่เคยตรวจจับ
โดยตรง ไดส้ ักที
การค้นพบคล่ืนความโน้มถ่วงคร้ังนี้จึงเป็นเสมือนตราประทับ
สุดท้ายท่ีรับรองความถูกต้องแก่ทฤษฎีสัมพัทธภาพท่ัวไปของ
ไอนส์ ไตนภ์ ายใต้บริบทการใช้งานของทฤษฎีน้ี
เร่ืองน่าทึ่งและน่าคิดก็คือจินตนาการและความรู้ของคนคน
หนึ่งน้ันมีพลังมากเพียงใด เพราะกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นจริง
ก็ตอ้ งใช้เทคโนโลยซี ่ึงก้าวหน้าอยา่ งที่สุดของอีก ๑๐๐ ปตี ่อมา !
150 มีนาคม ๒๕๕๙ แผนภาพแสดงคล่ืนความโน้มถ่วง
ที่เกิดจากหลุมด�ำสองหลุมโคจร
เวียนรอบซ่ึงกันและกัน