กฤณกรรณ สุวรรณกาญจน์ : เรื่อง/ภาพ
แม่น้ำบางกลอย หรือที่รู้จักกันในชื่อต้นน้ำเพชร ไหลจากต้นน้ำในป่าแก่งกระจาน แถบหมู่บ้านใจแผ่นดิน ผ่านบ้านบางกลอย มาถึงบ้านบางกลอยล่างหรือโป่งลึก-บางกลอย หากใช้เวลาเดินเท้าจากต้นน้ำก็ ๒ วัน หรือล่องแพ ๑ วันเต็ม
สัมภาระในการเดินป่าขึ้นไปต้นน้ำของพรานล่าปลา ประกอบด้วย ข้าวสาร หม้อ ช้อน และเกลือ ส่วนกับข้าวไปหาเอาข้างหน้า
หลังข้ามภูเขามา ๒ วัน ถึงต้นน้ำบางกลอย ช่วงนี้กว้างประมาณ ๓ เมตร น้ำลึกแค่เอวแต่ไหลแรงมาก
แยกย้ายกันไปหาอุปกรณ์เรียบง่ายทำเบ็ดตกปลา มีเพียงเส้นเอ็นที่เตรียมมาจากบ้านเป็นสายเบ็ด ตัดไม้ไผ่มาทำคันเบ็ด เก็บลูกไม้ป่าริมน้ำทำเหยื่อ
ปลาตัวแรกเป็นปลาพลวงหนักประมาณ ๔ กิโลกรัม ปลาชนิดนี้ชุกชุมในแม่น้ำบางกลอย มีมากเป็นพิเศษช่วงหน้าฝน น้ำโต
พรานปลานำปลาที่ตกได้มาต้มแกงง่ายๆ เครื่องปรุงมีเพียงข่า ตะไคร้ และเกลือ ต้มกับน้ำจากแม่น้ำบางกลอย เป็นต้มปลาที่อร่อยมาก
ที่ค้างแรมของพรานปลาทำง่ายๆ ตัดไม้ไผ่มาต่อกันเป็นเหมือนรั้วรอบกองไฟ แล้วเอาผ้าผูกเป็นเปลนอน
พรานบางกลอยรู้วิธีต่อแพกันทุกคน เริ่มจากตัดเถาวัลย์มาใช้ผูกแพ แล้วเลือกตัดไม้ไผ่ลำยาวไม่น้อยกว่า ๓ เมตร แพหนึ่งแพใช้ไม้ไผ่ประมาณ ๑๕ ลำ พายและไม้ถ่อก็ทำจากลำไผ่ ประกอบเสร็จแล้วต้องทดสอบว่าใบพายใหญ่พอจะบังคับทิศทางของแพได้ไหม
แพแต่ละแพมีคนคุมสองคน คนหนึ่งนั่งหน้าคอยบอกทาง คนหนึ่งยืนถ่ออยู่ข้างหลัง น้ำในแม่น้ำบางกลอยเชี่ยวกราก สายน้ำมีโขดหินมาก พรานกะเหรี่ยงต่างรู้วิธีล่องแพอย่างดี คนอยู่หน้าคอยมองก้อนหินที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ และตะโกนบอกให้คนอยู่ท้ายถ่อแพหลบหลีก
แม้ในยามค่ำคืนพรานปลายังไม่หยุดพัก ออกไปตกปลาได้มามากมาย แล่เป็นชิ้นๆ เพื่อทำปลาแห้ง เอาไปฝากครอบครัวที่อยู่บางกลอยล่าง
พวกเขาบอกว่าที่บางกลอยล่างไม่มีโอกาสจับปลา ทางอุทยานฯ มาเตือนชาวบ้านไม่ให้ออกไปที่แม่น้ำ บอกว่าเดี๋ยวจะไปรบกวนนักท่องเที่ยว