Green Energy

ใครๆ ก็รู้ว่าต้นเหตุสำคัญของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกคือการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน รวมถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งผลิตด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั่วโลกจึงมุ่งมั่นเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ

หลายคนอาจไม่รู้ว่า เอสซีจี เริ่มต้นใช้พลังงานทดแทนมากว่า 20 ปีแล้ว และได้พัฒนานวัตกรรมและความเชี่ยวชาญเพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งภายในโรงงาน ชุมชนและสังคม ร่วมมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

Step 1 : เริ่มต้นรักษ์โลกจากภายใน

เอสซีจี ริเริ่มพัฒนาพลังงานทดแทนมาใช้ในโรงงานซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ตั้งแต่ปี 2544 จากการนำยางรถยนต์ใช้แล้วมาเป็นเชื้อเพลิงทดแทน และได้พัฒนาพลังงานทดแทนในรูปแบบอื่นๆ เช่น การผลิตไฟฟ้าจากความร้อนเหลือทิ้งในกระบวนการผลิต (Waste Heat Power Generation, WHG) ฯลฯ โดยเฉพาะการใช้โซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ภายในพื้นที่โรงงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งแบบโซลาร์ฟาร์มบนบก โซลาร์รูฟทอปบนหลังคา และโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำ

scgnetzero01

โซลาร์ฟาร์มลอยน้ำใช้ประโยชน์จากการติดตั้งบนบ่อน้ำที่ว่างเปล่าในโรงงาน

scgnetzero02

โซลาร์ฟาร์มบนบกช่วยผลิตพลังงานไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

Step 2 : ขยายความรักษ์โลกสู่ภายนอก เก็บ “ขยะ” มาเป็นพลังงาน

ใครจะคิดว่าขยะที่ดูไร้ค่าจะกลายเป็นเชื้อเพลิงทดแทนได้ เอสซีจีได้พัฒนานวัตกรรมการใช้เชื้อชีวมวลจากขยะของเสียประเภทต่างๆ ซึ่งช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ลดปริมาณขยะและลดการกำจัดขยะที่ไม่ถูกต้องซึ่งก่อมลภาวะให้แก่สิ่งแวดล้อม

scgnetzero03

รับซื้อเศษผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงทดแทน สร้างรายได้ให้ชุมชนพร้อมกับลดปัญหาการเผาที่ก่อมลพิษทางอากาศ

เศษผลผลิตทางการเกษตร ปัญหามลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละออง PM2.5 ที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากการเผากำจัดเศษผลผลิตทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ใบอ้อย เอสซีจี จึงจัดทำโครงการรับซื้อเศษผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปเป็นเม็ดเชื้อเพลิงชีวมวล (Energy Pellet) เพื่อใช้ในโรงงานปูนซีเมนต์ สร้างประโยชน์แบบคูณ 3 คือ 1) ลดการใช้ถ่านหินในโรงงานปูนซีเมนต์ 2) ลดมลภาวะ PM2.5 จากการเผาไร่ และ 3) กระจายรายได้สู่ชุมชนโดยรอบ นอกจากนี้ยังนำขยะชุมชนมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงแข็งทดแทน (Refuse Derived Fuel, RDF) เพื่อใช้ในโรงงานด้วย ซึ่งปัจจุบันเอสซีจีใช้เชื้อเพลิงทดแทนในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์คิดเป็น 35% ของการใช้พลังงานทั้งหมด

scgnetzero04

เชื้อเพลิงทดแทนจากเศษผลผลิตทางการเกษตรช่วยให้โรงงานลดการเชื้อเพลิงจากฟอสซิล

scgnetzero05

แปรรูปขยะชุมชนโดยนำมาอัดแท่งเป็นเชื้อเพลิงขยะ RDF (Refuse Derived Fuel)

ขยะของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม เอสซีจี จัดตั้งโรงงานโรงไฟฟ้ามาบตาพุด อีโค่-เอ็นเนอร์ยีแพลนท์ (MEE) เป็นโรงไฟฟ้าที่รับของเสียจากโรงงานต่างๆ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียงมากำจัดในเตาเผาและนำความร้อนที่ได้มาผลิตพลังงานไฟฟ้า นับเป็นโรงไฟฟ้าแห่งแรกในประเทศไทยที่รับกำจัดได้ทั้งของเสียอันตรายและไม่อันตราย เช่น เศษวัสดุปนเปื้อนสารเคมี เศษพอลิเมอร์และเศษยาง เศษพลาสติก ฯลฯ ช่วยกำจัดของเสียอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องและตอบสนองความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูงขึ้นด้วยเชื้อเพลิงทดแทน

> กำจัดขยะ 65,000 ตันต่อปี ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ 8 เมกะวัตต์

Step 3 ส่งต่อความรักษ์โลกถึงลูกค้า

จากความชำนาญในการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ภายในโรงงานของเอสซีจีที่ทำมายาวนาน เอสซีจี จึงขยายธุรกิจสู่บริการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้แก่อาคารที่พักอาศัย ช่วยเพิ่มการใช้พลังงานสะอาดให้ทั่วถึงทุกพื้นที่ และยังพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยให้อาคารประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงด้วย

Solar Roof Solutions นวัตกรรมเพื่อบ้านประหยัดพลังงาน ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 60% ติดตั้งและดูแลครบทั้งกระบวนการ พร้อมแอปพลิเคชันติดตามและตรวจสอบการทำงานของระบบโซลาร์เซลล์

Smart Building Solution ธุรกิจให้บริการครบวงจรในการปรับปรุงอาคารให้เป็น Smart Building ที่ประหยัดพลังงาน ทั้งระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง อุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น IoT Data Analytics ช่วยควบคุมการใช้พลังงานไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

> ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของอาคารได้มากถึง 40%

ระบบบำบัดอากาศเสียสำหรับธุรกิจอาคาร ใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มประสิทธิภาพระบบปรับอากาศและระบายอากาศภายในอาคาร ด้วยนวัตกรรม HVAC Air Scrubber ดูดซับสารพิษได้มากกว่า 30 ชนิด และทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น

scgnetzero06

นวัตกรรม HVAC Air Scrubber ทำงานร่วมกับระบบปรับอากาศของอาคาร

> ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างน้อย 8 KCO2 ต่อตารางเมตรต่อปี และดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอาคารให้มีค่าไม่เกิน 750 ppm

> 1 ใน 9 นวัตกรรมโดดเด่นสาขา Smart Heat & Air จากองค์กร The Clean Fight 2020 นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา