กรณีเขาพระวิหาร เมื่อคนไทยแพ้ แต่ฮุนเซ็นชนะ

ในรอบสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมาก คงสำลักข้อมูลข่าวสารเรื่องเขาพระวิหารกันโดยถ้วนหน้า

เปิดข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือทางวิทยุ โทรทัศน์ นอกจากรายงานชนิดกัดไม่ปล่อยของนักข่าว ที่พยายามเสนอทุกแง่ทุกมุมอย่างละเอียด ยังเห็นท่านผู้รู้และไม่รู้ ออกมาแสดงทัศนะกันมากหน้าหลายตา

ผมเองได้ติดตามอ่านข่าวนี้ด้วยใจระทึก ยิ่งกว่าดูละคอนโทรทัศน์เรื่อง อเวจีสีชมพู เพราะไม่รู้จะเชื่อความเห็นของใครดี และผลจะออกมาเป็นอย่างไร

ใครเป็นผู้แพ้ ใครเป็นผู้ชนะ ปราสาทพระวิหารเป็นของใคร ไทยจะเสียดินแดนหรือไม่

ผมพยายามใช้สติปัญญาอันน้อยนิดประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาสรุปเอาเองว่า

ตัวปราสาทพระวิหาร ที่เคยเป็นกรณีเขมรยื่นฟ้องร้องในศาลโลกตั้งแต่ปี 2505 นั้นเป็นของเขมรไปเรียบร้อยแล้ว ตามคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2505 ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 3 ที่เห็นว่า ปราสาทพระวิหาร ตั้งอยู่บนดินแดนที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศกัมพูชา

และตามธรรมนูญศาลโลก ข้อ 61 ไทยสามารถจะยื่นคำร้องประท้วงขอให้ทบทวนได้ภายในระยะเวลาสิบปี นับจากศาลโลกมีคำพิพากษา แต่ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยอาจจะมัวยุ่งกับเรื่องอื่นจนไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ปล่อยให้หมดอายุความไปเอง

ส่วนในแง่ประวัติศาสตร์ในอดีตว่า ประสาทพระวิหารเป็นของใครนั้น มันคงเถียงกันไม่จบ อยู่ที่ว่าจะเอาช่วงเวลาไหนมาตัดสิน เพราะบางช่วงก็เป็นของเขมร บางเวลาก็อยู่กับสยาม คงจะถกเถียงกันไม่จบเหมือนกับที่ หากวันดีคืนดี คนไทยจะบอกคนมาเลย์ว่า ปีนังเคยเป็นของไทยมาก่อน หรือพม่าก็อ้างว่า เชียงใหม่ เป็นของพม่ามาก่อน

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ ปัญหาเขตแดนของทั้งสองประเทศยังไม่ชัดเจน ขณะนี้ทั้งประเทศไทยและกัมพูชา กำลังทำการสำรวจร่วมกันของคณะกรรมการร่วมปักปันเขตแดนไทยกัมพูชา ตลอดระยะทาง 800 กิโลเมตร ซึ่งทำกันมาหลายปีแล้ว ยังไม่เสร็จ รวมถึงดินแดนบริเวณเขาพระวิหาร ก็ยังอยู่ในระหว่างการสำรวจ

ต่างฝ่ายต่างถือแผนที่กันคนละฉบับ แม้ดินแดนของไทยตามประกาศของมติครม.ปี ๒๕๐๕ ที่ทางไทยกำหนดขึ้นเอง ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับจากกัมพูชา

และต้องยอมรับว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาเตรียมตัวดีกว่ารัฐบาลไทยมาก เพื่อที่จะผลักดันให้ประสาทเขาพระวิหารได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกของ คณะกรรมการมรดกโลก

หากเป็นมวยชิงแชมป์ ก็ถือว่าฝ่ายเขมรฟิตซ้อมมาดี เต้นฟุตเวิร์กมาตลอด โค้ชดี ชกทุกครั้งเข้าเป้าตลอด ขณะที่ฝ่ายไทยก่อนขึ้นชกเตรียมตัวไม่ค่อยดี อุ้ยอ้าย ไม่ค่อยเต้นฟุตเวิร์ก คลำเป้าไม่เจอ

ในเวทีนานาชาติ ไม่มีคำว่าถูก หรือ ผิด แต่เป็นเรื่องของการต่อรองผลประโยชน์ของแต่ละชาติ และเวทีเหล่านี้ล้วนแต่มีขาใหญ่ หรือผู้มีบารมีตัวจริงที่มองเห็นได้ คอยควบคุมให้เป็นไปตามความต้องการของตนและพวกพ้อง อาทิ เวทีสหประชาชาติ ขาใหญ่ก็คือ สหรัฐอเมริกา จีนและรัสเซีย

ส่วนเวทีคณะกรรมการมรดกโลก ที่มียูเนสโกเป็นพี่เลี้ยงนั้น ขาใหญ่ประจำยูเนสโก ก็คือ ประเทศฝรั่งเศส ที่สามารถชี้เป็นชี้ตายในหลายเรื่องได้ และเขมรเคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน จึงไม่แปลกใจที่นักสังเกตการณ์จะวิเคราะห์ว่า งานนี้เขมรได้เปรียบอยู่หลายช่วงตัว ตั้งแต่ออกสตาร์ท เพราะกรรมการบางท่านถือหางอยู่แล้ว

แต่ที่สำคัญคือ เรื่องปราสาทวิหารที่ทางเขมรต้องการจะให้เป็นมรดกโลกอย่างรีบด่วนนั้น เขามีเป้าหมายชัดเจน เพราะเหตุผลหลักเป็นเรื่องการเมืองในเขมร เมื่อรัฐบาลฮุนเซ็นต้องการใช้เรื่องนี้เป็นประเด็นหาเสียงเลือกตั้งที่จะถึง ปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ก็ต้องรีบทำทุกอย่างเพื่อให้ทันการเลือกตั้ง

ทุกวันนี้คนเขมรก็ทราบดีว่า สมเด็จฮุนเซ็น และนายพลเตีย บันห์ รัฐมนตรีกลาโหม คือบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ เป็นเจ้าของกิจการและเจ้าของที่ดินมากที่สุดในเขมร และตั้งใจจะอยู่ในตำแหน่งไปชั่วฟ้าดินสลาย

และบังเอิญ ที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเรา ที่มารับตำแหน่งไม่นาน ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนื้อย่างด่วนจี๋ มั่ก ๆ ตั้งแต่บินไปเจรจากับกัมพูชาที่เกาะกง เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม และอาทิตย์ต่อมาก็ไปเซ็นสัญญาร่วมกับรองนายกรัฐมนตรีเขมรว่า ไทยสนับสนุนให้ทางเขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม และนำส่งให้ครม.มีมติรับรองเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา

ทำตัวราวกับรมต.ต่างประเทศของไทย เป็นเมสเซนเจอร์ให้นายฮุนเซ็น จนคนทั่วไปสงสัยว่า ทำไมต้องรีบเร่งอะไรปานกามนิตหนุ่ม หรือเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของนักการเมืองทั้งสองฝ่าย (ประมาณว่า ฝ่ายหนึ่งรีบร้อนมาก กลัวไม่ได้ ไม่ทันสมัยการประชุม อีกฝ่ายเฉย ๆ แกล้งเตะถ่วง แล้วต่อรองกลับว่า ถ้าอยากให้ช่วยก็ต้องมีของแลกเปลี่ยน)

ผนวกกับที่ก่อนหน้านี้มีการสั่งปลด อธิบดีกรมสนธิสัญญา กระทรวงต่างประเทศคนก่อน ที่เห็นไม่เหมือนกันอย่างกะทันหัน ทำให้ข่าวลือที่ว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอาจได้รับสิทธิพิเศษในการประกอบธุรกิจที่เกาะกงและ สัมปทานแหล่งหลุมก๊าซในเขมร ได้รับความสนใจขึ้นมาทันที

อันที่จริง หากไปอ่านในเอกสารของยูเนสโก ว่าด้วยการประชุมของคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศนิวซีแลนด์ ในเดือนกรกฎาคม 2550 ในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ ก็ได้ข้อสรุปชัดเจนว่า

“กัมพูชาและไทยตกลงกันว่า กัมพูชาจะเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ ในสมัยประชุมของคณะกรรมการมรดกโลกในปี 2551”

ตอนนั้นไม่มีใครออกมาโวยวาย เพราะรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยที่ผ่านมาทำตามขั้นตอน และหากมีการตั้งประเด็นในเรื่อง แนวเขตชายแดน การจัดการพื้นที่รอบปราสาท ซึ่งเป็นพื้นทื่ทับซ้อน ก็คงเป็นการถกเถียงโดยมีผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นตัวตั้ง

แต่พฤติกรรมของรัฐมนตรีคนปัจจุบันชวน ให้สงสัยยิ่งนักว่า มีเบื้องหลังทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง หรือผลประโยชน์ของบางกลุ่มเป็นที่ตั้ง

จริงไม่จริง ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัด แต่พฤติกรรมในอดีตที่ต้นทุนทางสังคมติดลบอยู่แล้ว ล้วนทำให้ผู้คนสงสัยในเจตนาเป็นยิ่งนัก จึงมีผู้คนออกมาโวยวาย เป็นข่าวเกรียวกราวทุกวัน

กรณีปราสาทพระวิหาร ฮุนเซ็นมีแต่ได้กับได้ เป็นประเด็นหาเสียงได้ชัดเจน เลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไรก็นอนมาแน่นอน

แต่ปราสาทพระวิหาร ไม่ว่าเขมรจะได้รับการเสนอให้เป็นมรดกโลกหรือไม่ แต่ได้ตอกลิ่มความขัดแย้งทางความคิดของผู้คนในสังคมไทยที่แย่อยู่แล้วให้ ร้าวลึกลงไปอีก

Comments

  1. คนคู่

    บทเรียนนี้ได้ข้อสรุปหลายอย่าง ข้อสุดท้ายที่จำได้คือ อย่าลืมบทเรียน

  2. รักแผ่นดิน

    ทำไมรัฐบาลถึงเกรงใจเขมรจัง ทั้งๆที่เขาไม่เคยเกรงใจเราเลย รัฐบาลไทยเอะอะก็อ้างแต่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ทีเขามาตั้งรกรากในเขตไทยอยู่เรื่อยๆ ถ้าไม่ทำอะไรประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เขาจะเอากรณีของเเขมรเป็นเยี่ยงอย่าง ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู อย่าบอกนะว่ากลัวเขมรกลัวทำไมครับประเทศเขาอ่อนแอกว่าเราเยอะ

  3. กร๊วก

    ปราสาทเขาพระวิหารถ้าอยู่กับเขมรไม่มีความหมายหรอก เป็นแหล่งขอทานเขมร รำคาญมาก ๆ อารมณ์เสีย นึกว่าอยู่อินเดีย

  4. สุพล สิ่วไธสง

    รักษาพื้นที่และเขตแดนที่เป็นของเราชัวร์ๆ ให้ดีๆก็พอแล้ว

  5. สุพล สิ่วไธสง

    😉 ขอเป็นกำลังใจทุกรัฐบาลในการที่จะพยายามหาทางออกที่ดีๆ
    😛 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องกลับมาเป็นของรา หากทำในสิ่งถูกต้อง
    😀 ยึดศักดิ์ศรีความเป็นประเทศ หลักสากล ส่วนได้ส่วนเสียในอนาคต
    😐 หากมันต้องสูญเสียในเวทีนี้ มันก็น่าจะมีเวใหญ่ๆให้เราต่อยกับเขมรและต้องชนะใสๆ

  6. คนไทยสูงอายุ

    ขอ อธิษฐานต่อพระสยามเทวาธิราช พระแก้วมรกต พระพุทธชินราช พระบุรพกษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ดวงพระวิญญาณองค์พระนเรศวร และ พระเจ้าตากสินมหาราชผู้ปราบอริราชศัตรู พร้อมพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่ธรณี พระพาย พระพิรุณ พระเพลิง จงดลบันดาลให้คนดี มีศีลธรรม จงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้พบความสุข ความเจริญ ปลอดภัยเทวดาคุ้มครอง ผ่านพ้นได้ทุกอุปสรรค มีแต่คนดีเกิดในวงศ์ตระกูล ยั่งยืนสถาพรยิ่งๆขึ้นในที่สุด

    ส่วน คนชั่ว คนขายชาติ ขายวิญญาณรับใช้ทรราชย์ โกงชาติ คิดวางแผน และ กระทำการบั่นทอน ล้มล้างสถาบัน จงประสบความเสื่อมอย่างรวดเร็ว สมบัติ และเกียรติที่ได้มาสูญสลายย่อยยับ ลูกหลานออกมาชั่ว ทำลายวงศ์ตระกูลของตนเอง พบแต่ความทุกข์ทรมานทั้งกายใจ เป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย ไม่ตายดี เป็นผีตายโหง ตกนรกหมกไหม้ขุมลึกสุดไม่ได้ผุดได้เกิด วิญญาณบรรพบุรุษทุรนทุรายไม่สงบสุข

    ขอให้ชาวไทยทุกคนรวบรวมพลังจิตอธิษฐาน

  7. กิตติพิชญ์

    🙂 ..เดินตตามเกม….
    1.รัฐบาลไทยต้องมองเกมให้ออก..อย่ามัวแต่เถียงเรื่องแบ่งเก้าอี้
    2.น้ำนิ่งใหลลึก…ปล่อยให้เขมร หรือฮุนเซนโวยวายไปเรื่อยๆ.แต่เราดำเนินการตามกฎหมายสากล…บ่งบอกว่าใคร..มีการศึกษาสูง..หรือคนไม่มีการศึกษาข้างถนน
    3.สำคัญมากทำความเข้าใจกับประชาชนไทย-และเขมร…เพราะประชาชนเป็นตัวแปร..สำคัญว่า ใครชนะหรือแพ้…ตอนนี้ประชาชนกัมพูชาไม่ได้เอะอะเลย..มีแต่ฮุนเซนที่ออกมาปลุกระดม…
    …..ผู้นำที่เห็นแก่ตัว..ต่อให้เก่ง..ก็ไม่มีใครเอา….ประวัติศาสตร์ทุกชาติในอาเซี่ยนเป็นเช่นนั้นจริง—ฟิลิปปิน—อินโด—ล่าสุด…พี่ไทยนี่แหละ

    …….เราไม่ต้องการสงคราม…สันติและอหิงสาคือทางออก.ไม่ได้หมายความว่าเรากลัว……..

  8. กิตติพิชญ์

    ประชาธิปไตยเต็มใบ…..ประวัติศาสตร์…ทุกชาติ…แลกมาด้วยเลือดเนือ
    ..เชื่อใหม..เราทะเลาะกัน ..เพราะคำว่า ประชาธิปไตย…คำเดียว.
    …….หรือคนอ้างประชาธิปไตย…….เป็นคนผิด…แล้วโทษระบบ
    …การให้คนการศึกษาเรืองประชาธิปไตย…ในแนวทางเดียวกัน..สำคัณมาก..

  9. silhouette

    👿
    เสียปราสาทไปแล้ว ก็เสียดาย เพื่อความมั่นคงแห่งรัฐ
    แต่ตอนนี้ มีโอกาสสูงที่จะเสีย ดินแดนรอบๆ … ตรงนั้นเป็นภูมิศาสตร์สำคัญ
    ถ้านับจากหน้าผา มันจะล้ำเข้ามาหลายกิโล เพียงพอที่จะสร้างค่ายทหาร
    เขมรต้องการมาก หากตรงนั้นได้เป็นของไทย ตัวปราสาทแทบไม่มีความหายทางเศรษฐกิจ
    เพราะทางเข้าลำบากมาก ต้องขึ้นจากฝั่งไทย ผ่านบันได ถ้าขึ้นจากเขรต้องทำเป็นกระเช้าหรือไต่เชือก
    ..ซึ่งตลกมาก.. มรดกโลกต้องขึ้นด้วยการไต่เชือก แทนที่จะขึ้นทางบันใดเหมือนเจตนาของผู้สร้าง.

    แต่ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือคนไทยใจเขมร เอาใจกันจริงๆ
    ไม่รู้นะ … มองว่าจะผิดจะถุกอย่างไร ระหว่างประเทศต้องเอาไทยไว้ก่อน
    แล้วพอสงบ หรือมั่นคงแห่งรัฐแล้ว ค่อยมาทะเลาะหรือต่อสู้ทางการเมืองกันต่อ
    ไม่ใช่ต้องการชนะอีกฝ่าย ถึงยอมหันหน้าไปร่วมมือกับเขมร … อย่างเลวเลย

    ..หัวvวด..

  10. กฤษฎา ปานเทวัญ

    ยิงมันให้ราบไปเลยเขมรอะ

    มันสู้เราไม่ได้หรอก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านแสนยานุภาพทางการทหารแล้ว มันไม่มีทางสู้เราได้หรอก

    มันไม่เคยให้เกียรติประเทศเราเลย

    ทำไมต้องดีกับมัน ผมไม้เข้าใจ ทั้งๆที่มันก็ด้อยกับเราทุกอย่าง

    ทั้งความประพฤษก็กักฬะ เลวทรามต่ำช้า

    ผมขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์เสด็จพ่อ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขอให้ทรงช่วยให้ประเทศไทยพ้นภัยจากเขมรชั่วเหล่านี้

    ขอให้ไทยอย่าเสียดินแดนให้กับมันอีกเลย

  11. กฤษฎา ปานเทวัญ

    ผมเชื่ออยู่เสมอว่า องค์เสด็จพ่อ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงยังอยู่กับพวกเราเชาวไทยเพื่อทรงคุ้มครองประเทศไทยของเรา พร้อมกับ สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทุกพระองค์ที่ทรงเสี่ยงพระชนม์ชีพ อุทิศพระองค์ในการป้องป้องประเทศชาติบ้านเมืองที่ผ่านมา

  12. เด็กน้อยลำปาง

    เราจำเป็นที่ต้องโดนข่มเหงฝ่ายเดียวหรอ ทำไมไม่สู้กลับไปหล่ะ 👿 👿

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.