แอบขนกระเป๋า 600 กก. ของการบินไทย บอกอะไรกับเรา

2008032812066897051

มีคนเคยถามผู้เขียนบ่อย ๆ ว่า เหตุใดราคาค่าโดยสารของการบินไทย จึงแพงกว่าสายการบินของประเทศอื่น

เขาบอกว่า คุณภาพของเครื่องบินก็เก่ากว่าของคนอื่น  สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการของพนักงานบนเครื่องบินก็ไม่ได้แตกต่างกันอีกต่อไปแล้ว

น้องแอร์โฮสเตสของการบินไทยที่เคยได้ชื่อเสียงในเรื่องการบริการ ตอนนี้ก็ถูกบริการของน้องแอร์ของสิงคโปร์แอร์ไลน์  หรืออีวาแอร์ของไต้หวันหายใจรดต้นคอ แถมราคาค่าตั๋วยังถูกกว่าด้วย

ครัวการบินไทยที่เคยมีชื่อเสียงระดับโลก มาบัดนี้อาหารบนการบินไทยก็ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิก ที่สำคัญคือ สายการบินอื่นมีจอโทรทัศน์ทันสมัยประจำเก้าอี้ผู้โดยสารกันหมด  ยกเว้นบนเครื่องการบินไทยมีแค่จอหนังตรงกลาง ที่เรียกกันด้วยความขบขันว่า จอหนังกลางแปลง  แต่กล้าพอจะเก็บค่าโดยสารราคาแพงได้

ตั๋วโดยสารชั้นหนึ่ง ก็ไม่ค่อยมีใครอยากซื้อ เพราะไม่อยากไปนั่งร่วมกับบรรดาอภิสิทธิ์ชน ลูกท่านหลานเธอทั้งหลายที่ใช้ตั๋วฟรี  เป็นการไม่ยุติธรรมกับคนที่จ่ายค่าตั๋วราคาแพง

เมื่อก่อนผู้โดยสารหลายคนพยายามอุดหนุนสายการบินไทย ด้วยความภาคภูมิใจในชื่อเสียงการบินไทยที่เคยติดอันดับโลกในอดีต เพื่ออุดหนุนของไทยด้วยกัน แต่หนัก ๆ เข้าหลายคนก็เริ่มถอยห่างความรักชาติแบบนี้ที่ไม่ได้ช่วยชาติ

เพราะเริ่มรู้แล้วว่า สาเหตุที่สายการบินไทย รักคุณเท่าฟ้า ราคาค่าโดยสารแพงระยับ เพราะปัญหาการทุจริต ซื้อของมาราคาแพงกว่าปรกติ จนทำให้ผลประกอบการของบริษัทสิ้นสุดปีที่แล้ว ขาดทุนถึงสองหมื่นกว่าล้านบาท

การบินไทยมีปัญหาสั่งสมการคอรัปชั่นมาเป็นเวลานานตั้งแต่ระดับบนลงล่าง โดยเฉพาะผู้บริหารการบินไทยและนักการเมืองหลายคนอิ่มหมีพีมันจากการเป็นเหลือบเกาะการบินไทยมาเป็นเวลานานนับสิบปี

การจัดซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างในการบินไทยก็ไม่ต่างจากราชการทั่วไป คือจะต้องจัดซื้อในราคาแพงแสนสาหัส ตั้งแต่ชนิดของเครื่องบิน อะไหล่เครื่องยนต์  ไปจนถึงผ้าห่ม เบาะคลุมเก้าอี้ผู้โดยสาร หม้อกาแฟในครัวการบินไทย

เล่ากันว่า ผ้าห่มชั้นเฟิสต์คลาสในเครื่องบิน ราคาแพงระยับผืนละเกือบสองหมื่นบาท

เล่ากันว่า ค่าเหมารถตู้ให้พนักงานการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ คิดค่ารถเที่ยวละ 1,500 บาท วันหนึ่งไม่รู้กี่สิบเที่ยว  ขณะที่คนทั่วไปสามารถจ้างรถตู้ได้ทั้งวันในราคา 1,500 บาท

เมื่อปี พ.ศ. 2548 สมัยรัฐบาลคุณทักษิณ ได้มีการจัดซื้อเครื่อง แอร์บัส เอ340-500 จำนวน 4 ลำในราคาแพงมหาโหด 1.6พันล้านบาท  และมีสายการบินน้อยรายที่จะซื้อเครื่องรุ่นนี้ เพราะกินน้ำมันมากไม่คุ้มการลงทุน แต่ผู้บริหารและนักการเมืองอ้างว่า  เพื่อไปใช้เปิดเส้นทางบินตรง กรุงเทพฯ-นิวยอร์ก โดยวาดฝันว่าจะนำสินค้าโอท็อปจากเมืองไทย ไปขายในย่านกิ๊บเก๋บนถนน 5th avenue กลางเกาะแมนแฮตตัน

ผ่านไปไม่นานเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์คก็ฝันสลาย  สินค้าโอท็อปไม่มีใครแล ขาดทุนกันบานเบอะ จากค่าน้ำมันและจำนวนผู้โดยสาร จนเมื่อสองปีก่อนผู้บริหารการบินไทยต้องประกาศยกเลิกเส้นทางนี้ ส่วนแอร์บัสรุ่นนี้ก็ถูกปลดระวาง ประกาศขายราคาถูก แต่ก็ยังไม่มีสายการบินใดซื่อบื้อพอจะมาซื้อเครื่องบินในราคาน้ำมันสูงขนาดนี้  เบ็ดเสร็จการบินไทยขาดทุนย่อยยับไปหมื่นกว่าล้านบาท

แต่เอาผิดผู้บริหารไม่ได้สักรายเดียว

ล่าสุด เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีข่าวว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) คนหนึ่งพร้อมภรรยาได้ใช้อภิสิทธิ์ในการบินชั้นเฟิสต์คลาส โดยการขนกระเป๋าส่วนตัวกว่า 40 ใบ น้ำหนักกว่า 600 กิโลกรัมขึ้นเครื่องบินของการบินไทย กลับจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังไม่มีการเสียภาษีนำเข้าของต่างๆ ในกระเป๋าอีกด้วย

หลังจากสื่อทุกฉบับพร้อมใจกันเสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประธานกรรมการบริหารบริษัท การบินไทย นายวัลลภ พุกกะณะสุต ได้ออกมายอมรับว่า ได้นำกระเป๋า จากสนามบินนาริตะมาสุวรรณภูมิจริง เข้าประเทศโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร โดยอ้างว่ามีผู้ใหญ่ฝากสัมภาระนำไปถวายพระวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ  และยืนยันว่าไม่ได้ซุกซ่อนสินค้าหนีภาษีใดๆ เข้ามา และยังกล่าวตอนท้ายว่า

“ผมได้คุยกับประธานบอร์ดการบินไทย และรมว.คมนาคมแล้ว ซึ่งทั้งสองมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ”

แต่สำหรับคนไทยที่ได้อ่านข่าวนี้ คงไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่เป็นเรื่องสะเทือนใจมากกว่า

นายวัลลภ ย่อมรู้แก่ใจว่าผู้โดยสารชั้นเฟิสต์คลาสมีสิทธิ์ขนกระเป๋าได้ไม่เกินคนละ 40 กิโลกรัม  แต่นายวัลลภผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร กลับทำผิดระเบียบของบริษัทเสียเอง และนักข่าวมติชนได้ไปสอบถามพระวัดปากน้ำว่ามีใครฝากสัมภาระมาถวายหรือไม่ ก็ได้รับการปฏิเสธว่าไม่มีใครฝาก

หรือการละเมิดกฎของบริษัทเป็นเรื่องที่ทำกันมานานจนเป็นเรื่องปรกติ แถมยังใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชน ไม่นำของเข้าช่องทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบ แต่กลับลำเลียงสัมภาระดังกล่าวไปยังแผนกกระเป๋าหายแทน ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษี

พนักงานการบินไทยประจำสาขาที่โตเกียวผู้เปิดเผยเหตุการณ์ครั้งนี้ คงจะสุดทนต่อพฤติกรรมของทั่นผู้ทรงเกียรติทั้งหลายที่ละเมิดกฎกันบ่อย ๆ จนเป็นเรื่องปรกติ และครั้งนี้คงไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งสุดท้ายแน่นอน

มิหนำซ้ำ นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การบินไทย กลับออกมาให้สัมภาษณ์แบบขำ ๆ ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นของที่ฝากกันมา คงไม่ใช่ของหนีภาษีแต่อย่างใด

แต่คนไทยคงไม่ขำด้วย กลับระอาใจกับพฤติกรรมของผู้บริหารสูงสุดที่ปกป้องพรรคพวกกันเองอย่างหน้าหนา

ทุกวันนี้พนักงานการบินไทยพยายามประหยัดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เพื่อให้บริษัทสามารถอยู่รอดได้ และเมื่อนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์  กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) ได้มีข้อเสนอใหม่ ให้บอร์ดของการบินไทยลดตั๋วฟรีที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาส มาเป็นชั้นธุรกิจแทน แต่ปรากฎว่าบรรดาบอร์ดยืนกรานไม่ยอมเสียสละผลประโยชน์ส่วนตัว ให้นายปิยสวัสดิ์ กลับไปทบทวนข้อเสนอใหม่

นายปิยสวัสดิ์เพิ่งเริ่มงานได้ไม่กี่เดือน ดูเหมือนจะเจอศึกหนัก ถูกสกัดดาวรุ่งเสียแล้ว

ทุกวันนี้ใครได้เข้ามาเป็นบอร์ดการบินไทย แทบจะเรียกว่าตกถังข้าวสาร เพราะเป็นบอร์ดแล้ว นอกจากค่าเบี้ยประชุม อภิสิทธิ์ต่าง ๆแล้ว ยังจะได้ตั๋วโดยสารชั้นหนึ่งฟรีพร้อมผู้ติดตามไปทั่วโลกปีละ 15ใบ ครั้งไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

การหิ้วกระเป๋าหนัก 600 กว่ากิโล ในแง่มูลค่าแล้วคงไม่หนักหนาอะไร แต่เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเสมือนภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นทะเลขึ้นมา สะท้อนให้เห็นว่าการทุจริตคอรัปชั่นในการบินไทยที่เราจับไม่ได้ ไล่ไม่ทัน ยังมีอีกมหาศาล

โดยเฉพาะบรรดาผู้บริหารตัวเป้ง ๆทั้งหลายที่พร้อมใจกันออกมาปกป้องการทุจริตของพวกเดียวกันเอง ก่อนที่เรื่องจะลามไปถึงตัวเอง

ถึงเวลาแล้วที่บรรดาผู้ที่หวงแหนการบินไทย คงต้องออกมาเขย่าบอร์ดการบินไทยอย่างแรง ๆ สักครั้ง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากถึงโคน  ก่อนที่เหลือบฝูงนี้จะแทะการบินไทย จนไม่เหลืออะไรอีกเลย

มติชน 13 ธค. 2552

Comments

  1. ป๋อง โป๊ยเซียน

    รู้มาตั้งแต่ตอนตัวเองเป็นเด็กแล้วครับว่าการบินไทยมีปัญหามากมายที่มาจากผู้บริหารระดับสูงในส่วนต่างๆของประเทศรวมถึงข้าราชการบางคนที่มักอ้างสิทธิ์มากมายขอให้ได้รับบริการที่มากกว่าคนธรรมดาทั่วไป

    เทศกาลปีใหม่ทำให้หาตั๋วเครื่องบินลำบากและต้องเดินทางไปต่างประเทศด้วยเครื่องการบินไทย

    โอ้โหย! การติดต่อและบริการต่างๆตั้งแต่ยังไม่ขึ้นบินชวนให้เสียความรู้สึกอย่างยิ่ง

    นับเป็นสายการบินที่มีขั้นตอนที่ไม่ทันสมัยสมกับที่โฆษณาไว้

    น่าเป็นห่วงจริงจริง

  2. เก่ง

    อ่านแล้วรู้สึกแย่จัง เพราะเป็นคนหนึ่งที่ชอบการบินไทยโดยการส่วนตัวทีเดียว หลายครั้งที่ประทับใจกับการบริการบนเครื่องบิน ถ้ายังมีเหลือบอย่างนี้การบินไทยจะอยู่ได้อย่างไร พนักงานที่ไหนจะมีกำลังใจและความภาคภูมิใจในการทำงาน…

  3. Kora

    เป็นขาจรผ่านมาอ่านค่ะ ขออนุญาติแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ

    พ่อเราทำงานบริษัทนี้มาเกือบจะ 10 ปีละมั้ง ทุกวันนี้ยัง เป็นพนักงานต๊อกต๊อย
    ที่โดนเหล่าบรรดาผู้บริหารชั้นสูงๆ ทั้งโขก สับ ไม่เว้นแต่ละวัน

    พอเห็นใครทำอะไรผิด ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
    ขืนร้องเรียนไปเกรงว่าจะต้องหางานใหม่

    อย่างว่าแหละสังคมไทย เหลือบไรมันเยอะ ทุกคนล้วนหาประโยชน์ใส่ตัวทั้งนั้น
    ใครเกิดมามีชาติตระกูลหน่อย ก็ใช้ความใหญ่ของนามสกุล กดหัวคนที่ด้อยกว่า
    เฮ้อ…. น่าเศร้าค่ะ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่สังคมไทยเราจะพัฒนาสักที

  4. vara

    ขอแจงนิดนึงค่ะ เป็นครอบครัวค่ะของการบินไทยไม่ถูกทุกข้อที่กล่าวมา ถ้าบอกว่าสมัยทักษิณสั่งเครื่องบินมาไปนิวยอร์กแล้วสุดท้ายขาดทุนเรื่องจริงค่ะ เพราะเป็นการอ้างของนักการเมืองที่จะโดยสารบินฟรีงัยค่ะ ขอให้มีไว้ก่อนค่อยว่ากัน แล้วเอาคนของตนมาตัดสัมปะทานให้สายการบินของตนเอง คือแอร์เอเชียของชาติสิงค์โปร์ ตอนนี้สิงค์โปร์อยู่ในไทยเกินครึ่งประเทศแล้วมั้งค่ะ รวมทั้งแบงค์กรุงเทพของเรา ไทยคมของเรา เรื่องกระเป๋าเรื่องจริงค่ะไม่เถียงเป็นพนักงานและบอรด์ซะเปล่า ปล่อยให้ครอบครัวตนใช้อำนาจ อภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น แต่ขอบอกนะค่ะว่าให้นั่งอัพเกรดที่จากชั้นประหยัดและกระโดดมาธุรกิจมีจริงค่ะ แต่ ในกรณีพิเศษยกตัวอย่างดิฉันโดนมาแล้ว ตอนนั้นลูกเล็กเครื่องข้างหลังเต็มมีลูกเล็กคุณใช้ตั๋วพนักงานคุณต้องรอเกาะหน้าเคานร์เตอร์ลุ้นเอาว่าจะได้กลับมั้ย สุดท้ายวันนั้นได้นั่งจากภูเก็ตไฟล์สุดท้ายถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะ ประมาณ สี่ทุ่มได้แต่ไปเช็คอินตั้งแต่ ทุ่มครึ่ง นี่แหละค่ะตั๋วพนักงาน ย้อยกลับเรื่องอัพที่นั่งค่ะ ลูกเล็กอีกแน่นมากช่วงเบาะด้านหน้าสำหรับ เด็กอ่่อน infant เต็มพอแอร์เช็คที่นั่งพอเห็นชั้นธุรกิจว่างเรียกให้ไปนั่งด้านหน้าแต่ช่วงท้ายของชั้นธุรกิจสาเหตุที่ให้ไปเพราะมีเด็กเล็กกลัวว่าจะไปรบกวนผู้โดยสารชั้นประหยัดมากกว่าที่เชื่อแบบนี้เพราะตอนขึ้นเครื่องก้อไม่ได้โชว์บัตรพนักงานให้ดู และ ไม่รู้จักกันด้วย พนักงานการบินไทยมีเยอะมากมายหลายแผนกด้วยกัน แล้วถ้าไม่ใช่แผนก qv ยิ่งรู้จักกันยาก โดยสายงานแล้วเจอกันยากอยู่แล้วค่ะดิฉันคิดว่าเขาไม่ได้เลือกปฎิบัตินะค่ะแต่เหตุผลแต่ละคนมีไม่เหมือนกันมากกว่า จะอภิสิทธิ์เยอะมากตอนเมื่อเอา infantขึ้นเครื่อง เด็กและคนชรามาก่อนอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าเรื่องนักการเมืองดิฉันไม่เถียงค่ะก้อเพราะนักการเมืองนั่นแหละที่ใช้อำนาจกับเขาเห็นมั้ยค่ะว่าเขาก้อเริ่มเห็นว่าเราไม่ควรยอมพนักงานจึงออกมาโต้แย้งและขับไล่บอร์ดคนเก่า และอยากจะบอกนะค่ะว่า สวัสดิการในการรักษาสุขภาพก้อไม่ดีเท่าเอกชนและประกันสังคมนะค่ะ โอเคตั๋วดี แต่คุณมีเงินเที่ยวได้ตลอดหรอก ตั๋วก้อนำไปขายให้ใครไม่ได้ต้องใช้เองไปต่างประเทศตั๋วถูกจริงแต่ค่ากินและที่พัก ค่ารถทุกอย่างมันเยอะอยู่สำหรับพนักงานกินเงินเดือนนะค่ะ อย่าคิดว่าการบินไทยเงินดีนะค่ะ อาจจะมีก้อแต่พนักงานบนเครื่อง สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาบินแต่ละประเทศค่าครองชีพเขาแพงกว่าบ้านเรานะค่ะ อาหารหากินเองนะค่ะ มีแต่ที่พักและบินยุโรปสมัยนี้บินแค่พักหนึ่ง สองคืนก้อกลับแล้ว เหนื่อยมากเลย เข้าใจเขาเถอะค่ะทุกอย่างมันมีเหตุและมีผลในตัวของมัน อย่างที่บอกดิฉันเองก้อเคยตกเครื่องมาแล้ว อุ้มลูกหน้าเคารน์เตอร์ด้วยแต่เราก้อยอมรับผู้โดยสารต้องมาก่อนเพราะเขาเป็นลูกค้าของบริษัท การบินไทยไม่มีโบนัสมาหลายปีแล้วนะค่ะ บริษัทอื่นยังมี อันนี้เรื่องจริง พอมีผลกระทบกับการเมืองเขาจะเป็นอาชีพแรกที่เสี่ยงต่อการขาดทุนเห็นใจกันเถอะค่ะและยอมรับว่าเรื่องเส้นสายนี้แหละยังมี เรื่องของนามสกุลที่บรรดาญาติทางพ่อและแม่สร้างกันมาคนพวกนี้แหละน่ากลัวมากที่ทำลายสถาบันทางการงานของบริษัทพนักงานตัวน้อย ๆอย่างครอบครัวดิฉันลำบากมากออกสิทธิ์เสียงอะไรไม่ได้ผู้ใหญ่ไม่ได้ยินหรอก แต่ก้อเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่ามีทุกที่ เลยทำให้สบายใจได้ เพื่อนที่ทำงานตายมา สองคนแล้ว ในเวลางานด้วยเพราะอะไร งานหนักงัยค่ะ เงินน้อย โอทีโดนตัดขาดรายได้ต้องทำงานหารายได้พิเศษไม่ดูร่างกายไม่ไหว เงินเดือนก้อไม่ขึ้น สามปีแล้ว ภาระยังมีคนอื่นขึ้นกันโครมๆ นอนก้อไม่เป็นเวลาดึกยังต้องออกไปทำงาน กลับบ้านมานอนเช้าตกบ่ายตื่นทำงานอีกแล้วไม่ตายได้งัยคุณนี่แหละความลำบากของคนที่งานอาชีพบริการด้านการขนส่ง เราต้องการกำลังใจจากเพื่อนร่วมชาติอยู่นะค่ะ

  5. vara

    คุณน้อง kora พูดได้ถูกใจพี่มากเพราะมันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยและบริษัทใหญ่ๆ ทุกที่มักจะมีคนพวกถ่วงอยู่เยอะมาก ใช่เลยทุกคำพูด ขอบคุณมากเลย เพราะสามีพี่ก้อไม่ต่างอะไรกับพ่อคุณน้อง เลยจริงๆ จ้า 😛 😆

  6. vara

    คุณมติชน ขอบคุณนะที่เป็นกระบอกเสียงให้ รู้ลึกรู้จริงๆ คุณอีกคนที่พูดเรื่องจริงที่พนักงานอย่างเราระดับลูกกระจ๋อกพูดได้ยากมาก ส่วน ดีดี ของเราก้อแสนจะน่ารัก นี้คือเรื่องจริงของคนที่ตั้งใจเข้ามาทำงาน แต่ก้อนะดันมาเจอคน—-ซะแบบนี้อดทนต่อไปนะค่ะ ดีดี พนักงานชื่นชอบคุณหลายคนค่ะ โดยเฉพาะวันที่ดีดีออกโทรทัศน์และบุกเข้าครัวการบินเองอยากจะบอกว่าเจ๋งจริงเพราะไม่เคยมี ดีดี คนไหนทำเลยค่ะ ไ้ด้ใจพนักงานมากเลยขอบคุณนะค่ะ

  7. แอ๊บ

    นายธนู พึ่งแย้มพนักงานครััวการบินไทยภายในประเทศและนางสาวอัจฉราธรรมสิมมาพร้อมพวก ได้เดินทางไปประเทศเกาหลีบ่อยครั้งเพื่อนำสินค้าหนีภาษีเข้าไปขาย โดยอาศัยเอาตำแหน่งหน้าที่การงานเพื่อให้ทำงานสะดวกขึ้นการกระทำแบบนี้เสียชื่อเสียงต่อบริษัทจึงวอนให้ผู้บริหารได้สอดส่องดูแลพนักงานของท่านเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับพนักงานคนอื่นอีก

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.