Page 121 - Skd 361-2558-03
P. 121
เรือ่ ง : สชุ าดา ลิมป ์ / ภาพ : วิจติ ต์ แซเ่ ฮ้ง
“กลมุ่ ประมงพน้ื บา้ นบา้ นนา�้ ราบ”
นักปดิ ทองแหง่ ท้องทะเล
เราคนุ้ หกู บั ความงาม ความอดุ มสมบูรณแ์ ห่งทอ้ งทะเลตรัง ไม่ใชท่ กุ คนทพ่ี รอ้ มจะแบกรบั ภาระยงิ่ ใหญ-่ ปดิ ทองหลงั ธรรมชาติ
แตห่ ากไมม่ ใี ครเสยี สละรบั ผดิ ชอบเรอื่ งธรรมดาน ้ี วนั หนงึ่ อาจเปน็
แต่น้อยคนนักจะรู้จักเหลา่ ลูกประมง-นกั รักษ์ทรพั ยากรทะเล ปัญหาใหญ่เกนิ ก�าลังแก้ พวกเขาจึงเสนอตวั
ท่ีบ้านน้�าราบ หมู่ ๔ ต�าบลบางสัก อ�าเภอกันตัง จังหวัดตรัง “อนั ทจี่ รงิ ปา่ ชายเลนไมใ่ ชข่ องบา้ นนา้� ราบทงั้ หมด เปน็ ของตา� บล
มีกลุ่มคนอนุรักษ์ที่ท�างานเอาจริงแบบไม่สนว่าใครจะรู้จักหรือไม่รู้จัก เกาะลิบงด้วย แต่คนชุมชนส่วนใหญ่อาศัยอยู่บนเกาะ ไม่สะดวกดูแล
ผลงาน พวกเราตั้งบ้านเรือนใกล้ชิดป่าชายเลนกว่าจึงอาสา เราช่วยปลูกป่า
“กลุ่มเราเกิดข้ึนตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ แต่เพิ่งมีสถานที่ท�าการไม่ถึงปี ปลูกหญ้าทะเล ปล่อยพ่อ-แม่พันธุ์สัตว์น้�าปีละสองครั้ง พอถึง
เมอ่ื กอ่ นมสี มาชกิ ๑๓ คน นดั ประชมุ ตามสถานทว่ี า่ ง เวลานนั้ ชมุ ชน ฤดูสัตว์น�้าผสมพันธุ์เราจะปิดคลองเข้าออก มีพี่น้องในชุมชนผลัด
มีปัญหาเร่ืองเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ใช้อวนรุน ระเบิด ยาเบ่ือ ลาดตระเวน คนท่ีไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มฯ ยังช่วยเป็นหูเป็นตาให ้
แทบทุกบ้าน ผมก็ท�า เจ้าหน้าที่ตรวจตรามีจ�านวนไม่เพียงพอต่อผู้ พบใครท�าผิดก็ รีบแจ้งคนในกลุ่มฯ”
ท�าผิดหรอก แต่ละคืนที่ใช้อวนรุนจับกุ้งจะมีลูกปลาติดมานับล้านตัว อกี ภารกจิ ทข่ี บั เคลอ่ื นไปพรอ้ มคลอง คอื ประสานงานกบั เครอื ขา่ ย
กนิ -ขายกไ็ มไ่ ด ้ ตอ้ งทง้ิ เปลา่ เราจงึ เรมิ่ ทบทวนกนั วา่ ถา้ ยงั ใชอ้ ปุ กรณ์ อ่ืนเพ่ือร่วมอนุรักษ์ทรัพยากร คัดค้านการคุกคาม - เคียงข้างสัตว์ทะเล
พวกน้ีต่อ อนาคตจะไม่เหลือกุ้ง หอย ปู ปลาให้ลูกหลานท�ากินแน่ “ท้องทะเลมันกว้างใหญ่ เราท�าแค่หมู่บ้านเดียวไม่ได้แล้ว จึง
แมแ้ ต่รุ่นเราเองกต็ ้องออกไปหากนิ ไกลบ้าน จึงตดั สนิ ใจจะเลกิ ” ร่วมกับอีกส่ีหมู่บ้านใกล้เคียงท�าโครงการ ‘เขตเล เสบ้าน’ สร้างกฎ
กติกาจัดการทรัพยากรร่วมกันอยา่ งเป็นระบบ เร่ืองส�าคัญกเ็ ครื่องมือ
บังเดีย-หลงเฝี๊ยะ บางสัก ประธานกลุ่มประมงพ้ืนบ้าน ท�าประมงน่ีละ ห้ามใช้ประเภทท�าลายล้างเด็ดขาด และต้องร่วมกัน
ฟนื้ ฟูระบบนิเวศโดยรวม”
บ้านน�้าราบ พูดแทนพี่น้องประมงท่ีต่างให้ความส�าคัญต่อที่ท�ากิน บังเดียเล่าว่า ปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มฯ เพิ่มเป็น ๒๗ คน แต่ยังมี
อยากเห็นความอุดมสมบูรณ์อยู่กับบ้านอันอบอ่นุ ตลอดไป คนท่วั ไปช่วยงานดว้ ยความเตม็ ใจอีกหลายร้อย
“เม่ือก่อนผมต้องท�าหน้าที่เป็นตัวแทนของพ่ีน้อง เดินน�าหน้า
ปฏิบัติการดูแลรักษาผืนน�้า แผ่นดินเกิด จึงเร่ิมขึ้นโดยไม่ต้องมี ตลอด เดยี๋ วนเี้ ราทา� งานกนั เปน็ ทมี ไดค้ วามรว่ มมอื จากเครอื ขา่ ยอนื่ ๆ
ใครสอนหรือบงั คบั ชว่ ยใหท้ า� งานงา่ ยขน้ึ ทน่ี า่ ยนิ ดที ส่ี ดุ คอื พนี่ อ้ งเรามจี ติ ส�านกึ และเขา้ ใจ
งานเราจริง ๆ แลว้ ”
“ชมุ ชนบา้ นนา้� ราบม ี ๑๐๐ กวา่ ครวั เรอื น ทา� สวนยางและประมง ที่เหลือคือหน้าท่ีปลูกฝังลูกหลานให้หวงแหนทรัพย์สมบัติท ี่
โดยจบั ปมู า้ เปน็ หลกั สมยั กอ่ นไมม่ กี ฎหมายบงั คบั ใชอ้ ปุ กรณจ์ บั ปมู า้ พอ่ แม่เพียรรักษา
เราจึงตั้งกติกาชุมชนว่าตาข่ายต้องมีขนาดกว้าง ๒ น้ิวข้ึนไป แรก ๆ “เราช่วยท�าให้ระบบนิเวศกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้แล้ว ต่อไปข้าง
กย็ งั มีคนลักลอบท�าผดิ สมาชกิ กลมุ่ ฯ จงึ ชว่ ยเจ้าหน้าท่ีรฐั ลาดตระเวน หน้าถ้าพวกเขาไม่อยากออกไปหากินไกลบ้านก็ต้องดูแลป่าชายเลน
และแจ้งเบาะแส และท้องทะเลไว้ให้ได้เหมือนเรา”
โดยไม่ต้องสนใจว่าประวัติศาสตร์ชุมชนชายฝั่งจะจดจารชื่อใคร
“พออนุรักษ์แล้วก็ต้องฟื้นฟู เม่ือก่อนป่าชายเลนในหมู่บ้านเรา เปน็ นกั รกั ษท์ ะเล
มีจ�านวน ๓,๒๐๐ ไร่ บางส่วนถูกท�าลายไปในยุคสัมปทาน หลัง
ยกเลิกสัมปทานก็ยังมีกล่มุ นายทุนลักลอบทา� ลาย เรากลัวว่าอนาคต
พวกเขาจะเข้ามากั้นอาณาเขตจนพ้ืนที่สาธารณะหาย และชาวบ้าน
จะขับเรือล่องคลองไปมาหาสู่กันไม่ได้อีก จึงช่วยกันเขียนโครงการ
ของบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ มาพัฒนาคลองและป่าชายเลน
กนั้ พ้ืนที่ให้เป็นเขตอภยั ทาน ป้องกันการบกุ รุก”
มีนาคม ๒๕๕๘ 119

