Page 189 - Skd 361-2558-03
P. 189

อำทิตย์ทรงกลดทร่ี ัฐนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกำ เมื่อวันท ่ี ๙ มกรำคม ค.ศ. ๒๐๑๕  

(ภาพ : โจชัว โทมสั )

    ในการค�านวณใช้ค่ามุมเงยของดวงอาทิตย์ ๑๑ องศา ซ่ึง                     ทั้งน้ีผลึกแบบ A ให้เส้นทรงกลดแบบที่ ๑ เท่านั้น ส่วนผลึก 
ประมาณจากรูปร่างและความโค้งของเส้นการทรงกลดบางเส้น                    แบบอื่นๆ ให้เส้นการทรงกลดหลายรูปแบบ ได้แก่ ผลึก B ให้เส้น 
ผมจ�าเป็นต้องใช้วิธีน้ีเน่ืองจากในข่าวไม่ได้ระบุเวลา บอกเพียงว่า      ทรงกลดแบบท่ี ๓, ๔, ๕, ๖, ๑๐ และ ๑๓  ผลึก C ให้เส้นทรงกลด
ชว่ งเชา้ วนั ที่ ๙ มกราคม ค.ศ. ๒๐๑๕                                  แบบท ่ี ๔, ๗, ๘, ๙, ๑๑, ๑๒ และ ๑๓  และผลกึ  D ใหเ้ สน้ ทรงกลด
                                                                      แบบท ี่ ๒, ๓, ๔ และ ๙
    นอกจากน้ีเนื่องจากเราทราบว่าเมืองเรดริเวอร์อยู่ที่ละติจูด 
๓๖.๗ องศาเหนือ ลองจิจูด ๑๐๕.๔ องศาตะวันตก จึงประมาณ                       แม้ภาพการทรงกลดท่ีได้จากแบบจ�าลองผลึกในบทความน้ี 
เวลาในภาพถ่ายได้ว่า ๐๘.๒๔ น. (ค�านวณโดยใช้ NOAA Solar                 ใกล้เคียงความจริงพอสมควร แต่ยังมีแง่มุมท่ีอาจปรับปรุงได้อีก 
Calculator บนอินเทอร์เน็ต)                                            เพื่อให้ตรงกับภาพถ่ายย่ิงขึ้น เช่น ท�าอย่างไรให้เส้นพิลลาร์ดวง
                                                                      อาทิตย์ด้านบน (เส้นที่ ๓) เข้มขึ้น ? หรือท�าอย่างไรให้เส้นโค้ง 
คำ� ถำมท ี่ ๓ : ผลการจา� ลองการทรงกลดเป็นอย่างไร ?                    แพรร์ ซี ูพราแลตเทอรลั  (เสน้ ที ่ ๑๑) จางลง ?
ตอบ : แผนภาพการทรงกลดจ�าลองและรหัสตัวเลขพร้อมชื่อเรียก
                                                                      ค�ำถำมที่ ๔ : ผลึกน้�าแข็งของจริงในธรรมชาติที่ท�าให้เกิดการ
ส�าหรบั การทรงกลดแตล่ ะเสน้ เป็นดงั ภาพและตารางตอ่ ไปน้ี
                                                                      ทรงกลดนอ้ี ยทู่ ่ไี หน ?
ตารางสรปุ ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการทรงกลดที่เกิดขึ้นกับผลกึ  
ซ่งึ ทา� หนา้ ทีห่ ักเห (หรอื สะท้อน) แสง                             ตอบ : กรณที ว่ั ไปผลกึ นา้� แขง็ ทที่ า� ใหเ้ กดิ การทรงกลดอาจอยใู่ นเมฆ 

           การทรงกลดแบบต่าง ๆ                          A   ผลึก    D  หรืออยู่ใกล้พ้ืนดินก็ได้ แต่ในกรณีการทรงกลดท่ีรัฐนิวเม็กซิโกคร้ังน้ี
                                                                    ขอสันนิษฐานว่าผลึกน�้าแข็งอยู่ใกล้พ้ืนดิน เรียกว่า ไดมอนด์ดัสต์ 
๑.   วงกลม ๒๒ องศา (22-degree circular halo)              BC         (diamond dust) เนื่องจากภาพของโทมัสบ่งช้ีว่าขณะเกิดปรากฏ- 
๒.   ซนั ดอ็ ก (sundog)                                              การณ์นีอ้ ากาศหนาวจดั และมหี มิ ะตก
๓.   พิลลาร์ดวงอาทติ ยด์ า้ นบน (upper sun pillar)        
๔.   วงกลมพารฮ์ ีลิก (parhelic circle)                                 มีข้อสังเกตว่า ช่วงฤดูหนาวหลายปีท่ีผ่านมามักจะมีปรากฏ- 
๕.   เสน้ โคง้ อนิ ฟราแลตเทอรัล (infralateral arc)                   การณ์น่าสนใจเชิงวิทยาศาสตร์เกิดข้ึนเสมอ เช่น เกิดปรากฏการณ์ 
๖.   เสน้ สัมผัสบน (upper tangent arc)                               polar vortex collapse ช่วงปลาย ค.ศ. ๒๐๑๓ ต่อต้น ค.ศ. ๒๐๑๔ 
๗.   เสน้ โค้งแพรร์ ีแบบหันด้านนูน                                    ท�าให้แคนาดาและสหรัฐอเมริกาได้รับผลกระทบรุนแรง เช่น ท่ี
      เข้าหาดวงอาทิตย ์ (sunvex Parry arc)                           แคนาดาวันที่ ๖ มกราคม ๒๐๑๔ อุณหภูมิที่เมืองวินนิเพก (Winni-
๘.   เสน้ โค้งแพร์รีแบบหันด้านเว้า                                    peg) ลดต�่าถึง -๒๘ องศาเซลเซียส ส่วนท่ีอเมริกาอากาศเย็นลาม 
      เขา้ หาดวงอาทติ ย ์ (suncave Parry arc)                        ลงใต้ถึงเมืองแทมปาในรัฐฟลอริดา และหิมะท่ีรัฐมิชิแกนตกหนา 
๙.   เสน้ โค้งเซอร์คมั ซีนิทลั  (circumzenithal arc)                  ๕-๑๘ นว้ิ  (๑๓-๔๖ เซนติเมตร)
๑๐.  เสน้ โคง้ ซพู ราแลตเทอรัล (supralateral arc)               
๑๑.  เส้นโคง้ แพร์รซี พู ราแลตเทอรลั                                    เหตุกำรณ์แต่ละคร้ังควรถือเป็นเร่ืองส�ำคัญท่ีผู้เชี่ยว 
      (Parry supralateral arc)                                        ชำญต้องศึกษำให้เข้ำใจถ่องแท้ ส่วนคนทั่วไปก็ควรตระหนัก
๑๒.  เส้นโคง้ ฮลี ิก (helic arc)                                     และติดตำมข่ำวสำรต่ำง ๆ ด้วยควำมเข้ำใจพื้นฐำน จะได้
๑๓.  เสน้ โคง้ ซับฮลี กิ  (subhelic arc)                              ปฏิบัติตัวอย่ำงถูกต้องและมีเหตุผลครับ  
                                                                
                                                          

                                                                                มนี าคม ๒๕๕๘                                                     187
   184   185   186   187   188   189   190   191   192   193   194