Page 188 - Skd 361-2558-03
P. 188

มติ ิคู่ขนาน                    คน้ หาความเหมอื นในความตา่ ง        คุณผ้อู ่านทสี่ นใจการทรงกลดแบบซบั ซอ้ น 
                                คน้ หาความต่างในความเหมือน          อาจอา่ นหวั ขอ้  Multiple Halo Displays 
บญั ชา ธนบญุ สมบัติ             พบกับความจรงิ และความงดงาม          ในเว็บไซต ์ Atmospheric Optics 
                                 ท่แี ฝงในค่ขู นานของสรรพสิ่ง       ที ่ http://atoptics.co.uk/halo/haldisp.htm 
buncha2509@gmail.com,                                               ข้อมูลเกี่ยวกบั  diamond dust อาจเรม่ิ ที ่
   wwwb.ufanccehbao2o5k0.c9om/                                      http://en.wikipedia.org/wiki/Diamond_dust

สดุ ยอดทอ ี่ ำNทeติ wย ์ทMรงeกxiลcดo

เม่ือวันศุกร์ที่ ๙ มกรำคม ค.ศ. ๒๐๑๕ เกิดปรำกฏกำรณ ์                 คำ� ถำมท ี่ ๒ : การจา� ลองการทรงกลดทา� อย่างไร ?
                                                                    ตอบ : ผมใช้โปรแกรม HaloPoint 2.0 ค�านวณ ซึ่งเป็นฟรีแวร ์
อาทิตย์ทรงกลดหลายรูปแบบท่ีเมืองเรดริเวอร์ รัฐนิวเม็กซิโก 
สหรัฐอเมริกา มีผู้ถ่ายภาพไว้คือ โจชัว โทมัส (Joshua Thomas)         เขยี นโดย Jukka Ruoskanen 
และต่อมาเจ้าหน้าที่ของ US National Weather Service (NWS)                การทรงกลดทุกรูปแบบเกิดจากการท่ีแสงอาทิตย์หักเห (หรือ
ทแี่ อมารลิ โล รฐั เทกซสั  ได้โพสตภ์ าพน้ีบนเฟซบุ๊กขององค์กร
                                                                    บางกรณีสะท้อน) จากผลึกน้�าแข็งรูปร่างต่างๆ ในอากาศ  ในแบบ
    วันที่เขียนต้นฉบับบทความนี้ (๑๐ กุมภาพันธ์) ก็มีผู้แชร์ภาพ      จ�าลองใช้ผลกึ น้า� แขง็ ส่รี ูปแบบ ดงั นี้
ดงั กล่าวถึง ๒๕,๘๔๑ ครง้ั  ! 
                                                                        ผลึก A : ผลึกรูปแท่ง หน้าตัดหกเหล่ียมด้านเท่า (รูปร่าง 
    แม้ว่าในโพสต์ของ NWS จะระบุช่ือเรียกของเส้นการทรงกลด            คลา้ ยกลอ่ งขนมโคอะลา มารช์ ) เอยี งตวั แบบสมุ่ ๆ ในอากาศ ปรมิ าณ 
ต่างๆ ไว้ และบอกว่าไดป้ รกึ ษาอาจารยเ์ ลส คาวลยี  ์ (Les Cowley)    ๒ เปอร์เซน็ ต์
ผู้เชี่ยวชาญด้านอาทิตย์ทรงกลดแล้ว แต่ผมพบว่าช่ือเรียกของการ
ทรงกลดบางเสน้ คลาดเคลอื่ นจากความเปน็ จรงิ  (ซงึ่ คงเกดิ จากความ        ผลกึ  B : ผลกึ รปู แทง่ คลา้ ยผลกึ  A แตว่ างตวั ในแนวนอน หมนุ
ไม่คุ้นเคยของผู้ท่ีจัดท�าค�าบรรยายประกอบภาพน่ันเอง)  ดังนั้นเพ่ือ   รอบแกนผลึกได้ ๓๖๐ องศา ปรมิ าณ ๓๘ เปอร์เซ็นต์
ให้เข้าใจเร่ืองน้ีอย่างถูกต้อง ผมจึงขอเสนอสรุปผลการวิเคราะห์
ปรากฏการณน์ ีโ้ ดยใช้คา� ถาม-ค�าตอบสี่ข้อ ดังนี้                        ผลกึ  C : ผลกึ รปู แทง่  หนา้ ตดั หกเหลยี่ ม (ดรู ปู ) วางตวั ลกั ษณะ 
                                                                    หันดา้ นแบนขนานกบั พื้น ปรมิ าณ ๓๐ เปอร์เซ็นต์
ค�ำถำมท่ี ๑ : รู้ได้อย่างไรว่าภาพนี้เป็นภาพจริง ไม่ได้สร้างด้วย
                                                                        ผลึก D : ผลึกรปู แผน่  วางตัวในแนวนอนโดยเฉลี่ย แต่เอียงได้ 
โปรแกรมกราฟกิ อย่าง Photoshop ?                                     ๑๐ องศา หมนุ รอบแกนผลกึ ได ้ ๓๖๐ องศา ปรมิ าณ ๓๐ เปอรเ์ ซน็ ต์

ตอบ : เนื่องจากเราสร้างแบบจ�าลองการทรงกลดในภาพได้ครบ                                  ลักษณะผลกึ ท ่ีใช้ในแบบจ�ำลอง

ทุกเส้นตามท่ีเกิดข้ึนจริงในธรรมชาติ และผลจากแบบจ�าลอง                   ผลกึ แตล่ ะแบบอาจใหเ้ สน้ ทรงกลดแบบเดยี วกนั หรอื ตา่ งกนั กไ็ ด้ 
สอดคล้องกับภาพถ่าย ทั้งในแง่ต�าแหน่งและลักษณะความโค้ง               (ดังจะได้เห็นผลลัพธ์ของค�าตอบท่ี ๓)  ความสนุกและความยาก 
ของเส้น จึงม่ันใจว่าภาพน้ีถ่ายจากเหตุการณ์จริง (มองอีกแง่ หาก       ในการสร้างแบบจ�าลองเพื่อให้ได้ภาพใกล้เคียงกับภาพที่เห็นก็คือ 
เป็นภาพท่ีสร้างข้ึนก็แสดงว่าผู้สร้างภาพต้องมีความรู้เก่ียวกับ       ต้องสร้างผลึกให้ถูกต้องท้ังรูปร่าง การเอียงตัว และปริมาณสัมพัทธ์
ปรากฏการณ์น้ีในระดับทไี่ มธ่ รรมดา ซ่ึงเป็นไปได้ยาก)                น่นั เอง

                                กำรทรงกลดที่รฐั นวิ เมก็ ซิโก
                                จำ� ลองด้วยคอมพิวเตอร์

186 มีนาคม ๒๕๕๘ 
   183   184   185   186   187   188   189   190   191   192   193