Page 184 - Skd 361-2558-03
P. 184
จสาู่เมกอืปง่า เลา่ เรอ่ื งปัญหาการอนรุ กั ษ์ป่าไม้
จากสถานการณ์ปัจจุบนั
ศศิน เฉลมิ ลาภ ทีผ่ ้เู ขยี นเขา้ ไปพบ
และทา� งานเก่ยี วขอ้ ง
โดยเฉพาะในผนื ป่าตะวนั ตก
และพน้ื ทธ่ี รรมชาติอ่ืนๆ
บนั ทกึ ข้ึนภูกระดงึ (๑)
ผมจำ� รำยละเอยี ดเกยี่ วกบั กำรเดนิ ขนึ้ ภกู ระดงึ เมอื่ ๒๐ กวำ่ ปี เยอะแล้ว ...แล้วแกก็บอกผมอย่างปลงๆ ว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เนาะ...”
ท่ีแล้วได้ไม่ชัดเจนนัก โดยเฉพาะชื่อจุดพักที่เรียกว่า “ซ�า” ต่างๆ
ต้องขอบคุณการผลักดันให้สร้างกระเช้าภูกระดึงครั้งใหม่ ท่ีเป็นแรง ผมก็บอกพี่เขาว่า...ไมแ่ นห่ รอกครบั ...
บันดาลใจให้ผมปีนภูขึ้นมาทบทวนความหลังในวัยขนาดน้ี แน่นอน ระหว่างทางต่อจากนั้นผมสวนทางกับคนรับจ้างแบกสัมภาระ
ว่าซ�าแรกท่ยี ังจา� ไดแ้ ม่นอยู่ซ�าเดยี วคือ “ซ�าแฮก” ของภกู ระดงึ อายนุ า่ จะสกั ๖๐ เมอ่ื สอบถามน้�าหนกั ทเี่ ขาแบกลงมา
เขาตอบว่าเท่ียวน้ี ๔๐ กว่าโล บอกผมว่าคนหนุ่มๆ ได้ถึง ๗๐ โล
อากาศสายปลายเดือนมกราคมยังคงหนาวเย็นตั้งแต่ตีนภู แต ่ ผมคดิ วา่ นา้� หนกั ๗๐ กโิ ลกรมั เทา่ กบั นา้� หนกั ผมเลย ระหวา่ งนน้ั รสู้ กึ
พอพระอาทิตย์ขึ้นสูงพ้นยอดไม้ท่ีไม่ค่อยเหลือใบในหน้าแล้ง เน่ือง ถึงว่าคนเราน่ีช่างมีศักยภาพ จริงๆ ลา� พังเป้ท่ีผมตั้งใจจะแบกเอง
จากเป็นป่าเต็งรังตลอดเส้นทางชันดิก ๑,๐๐๐ กว่าเมตร ความร้อน ขึ้นมา ไมถ่ งึ ๑๐ กโิ ล นก่ี แ็ ทบตายแล้ว
จากภายนอกก็ปะทะกับภายในที่หอบเหน่ือยตั้งแต่ไม่ก่ีสิบเมตรแรก เห็นแล้วคิดถึงตัวเอง ปัญหานิดหน่อยก็ไม่อยากเดินต่อ ท้อ
ระหว่างทางผมสวนทางกับคุณลุงคุณป้าคณะหน่ึงท่ีก�าลังเดินกลับ บ่อย... ท้ังการเดินคร้ังน้ีและอุปสรรคปัญหาอื่นของชีวิต ระหว่าง
ลงมา ดแู ลว้ คณะนไ้ี มไ่ ดเ้ ตรยี มตวั มาเทยี่ วแบบน ี้ แตล่ ะคนใสร่ องเทา้ น่ังพักใต้ต้นไม้ผมก็คิดได้ว่า...ท้อได้แต่ไม่แพ้...ก็จบ เออ บางทีการ
แตะ หอบเหนอื่ ย แตม่ แี ววตาสนกุ สนาน บอกผมวา่ เดนิ ลงเพราะขนึ้ เดินข้ึนภูกระดึงนี่มันไม่ใช่ให้ขึ้นไปเที่ยวเล่นอย่างเดียว คนเดินทาง
ถึงซ�าแฮกไมไ่ หว ขนึ้ เขานเี่ ปน็ การตอ่ สกู้ บั แรงดงึ ดดู ของโลกทด่ี งึ เราลงตา�่ ใหเ้ ราแพต้ อ่
ความเย้ายวนใจที่จะเลิกเดินขึ้นแล้วหันหลังกลับ ผมว่าเร่ืองแบบน้ี
ผมก็ว่าดีแล้ว เพราะต่อจากน้ันยาวไปอีกส่ีห้าเท่าตัว ถ้าไม่ได้ คงไมใ่ ชม่ ผี มคนเดยี วทแี่ วบคดิ ไดร้ ะหวา่ งการเดนิ เปน็ แน ่ ระหวา่ งทาง
เตรยี มตวั มาเทย่ี วขนึ้ ไปคา้ งแบบน ี้ ฝนื ขน้ึ ตอ่ ไปกก็ ลบั ไมท่ นั แตด่ จู าก พบนอ้ ง ป. ๖ ลงุ ปา้ นา้ อา ทกุ วยั สาวบตู กิ ลกู หาบผหู้ ญงิ เจอหนมุ่
ความไม่พร้อมของคนวัยนั้น ไม่รู้ข้อมูลแต่ยังไปได้เกือบถึงซ�าแฮก คนหน่งึ จ�าผมได้เข้ามาทกั ชวนคยุ จนจบวา่
ทา� ใหผ้ มคอ่ ยๆ เดนิ ขนึ้ บนั ไดหนิ ทน่ี า่ จะปรบั ปรงุ ขนึ้ ใหม ่ บางชว่ งเดนิ ...ภกู ระดึง ไมใ่ ชภ่ ูกระเช้า ๕๕๕๕
ยากก็มรี าวจับ จนผมข้นึ ไปถึงซา� แฮกอย่างไม่ทลุ ักทุเลเท่าท่ีกังวล ในทสี่ ดุ ผมก็พารา่ งกายวยั กลางคนกับน�้าหนักตัวท่ีมากกวา่ เม่ือ
ขนึ้ ครงั้ แรกสมยั หนมุ่ ๆ ผา่ นปา่ เบญจพรรณ ปา่ ดบิ แลง้ และปา่ ดบิ เขา
เพิงอาหารท่ีซ�าแฮกสัก ๑๐ กว่าร้านรอรับนักท่องเท่ียวอยู ่ บนเส้นทางโหดทางหินชันดิกจนถึงยอดหลังแปในตอนบ่าย ผม
แน่นอนวา่ ผมไม่พลาดทจ่ี ะไปอดุ หนนุ น�า้ และขนม เพ่ือหาโอกาสพูด บนั ทกึ ไว้บนเฟซบุก๊ วา่
คุยกับแม่ค้าและเก็บข้อมูลราคาอาหาร ผมพบว่าแม้ไม่ได้ข้ึนมา “วันนี้ใช้เวลา จาก ๙.๑๙-๑๕.๑๔ น. รวมเวลาข้ึนถึงหลังแป
ซ�าแฮก ๒๐ กว่าปี ของขายมากขึ้น แต่อาหารไม่แพง ข้าวราด ๔๕ ๕ ชัว่ โมง ๕๕ นาท ี ๕๕๕”
บาท น�้ากระป๋อง ๓๐ บาท แบกข้ึนมาขนาดนี้ แม่ค้าอัธยาศัยน่ารัก จากหลงั แป ทวิ ทศั นป์ า่ สนและไมพ้ มุ่ ดหู นาตาขนึ้ มาก ระหวา่ ง
มากๆ สภุ าพ ใจด ี แมจ้ ะเชญิ ชวนใหเ้ ขา้ ไปนงั่ แตก่ ริ ยิ าอาการดนู า่ รกั ทางเดิน ทรายจากการผุพังของหินชุดภูพานท่ีปิดทับยอดภูตัดเป็น
มีน้�าใจไมตรอี ย่างจรงิ ใจ พอคุยกนั เรือ่ งกระเชา้
“พรี่ อ้ ย” แมค่ า้ รา้ นทผี่ มเลอื กนง่ั รา้ นนบ้ี อกวา่ คนอา� เภอภกู ระดงึ
ทอ่ี ยากไดก้ บ็ อกวา่ อยากใหข้ า้ งลา่ งเจรญิ ๆ มนี ายทนุ มาซอ้ื ทร่ี อบภไู ว้
182 มนี าคม ๒๕๕๘