Page 99 - Skd 361-2558-03
P. 99
เรอื่ ง : สุวฒั น์ อัศวไชยชาญ / ภาพ : วิจิตต ์ แซเ่ ฮง้
จากนายกเมอื งคารบ์ อนต�่า
สวู่ ิถีเกษตร “ขยะ” เน้ียบเนยี น
สมชาย จริยเจริญ
หลายปีก่อนเทศบาลต�าบลเมืองแกลง จังหวัดระยอง ได้ชื่อว่า เกษตรเนีย้ บเนยี น
ถ้าจะท�าเกษตร ผมจะท�าปุ๋ยเองให้ได้ก่อน จะไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ถ้า
เป็นต้นแบบเมืองคาร์บอนต่�า และนายกเทศมนตรีท่ีพัฒนาเมือง
แบบ “นอกกรอบ” “กลับหัวกลับหาง” ก็คือ สมชาย จริยเจริญ เขา ผมจะเลี้ยงไก่ ผมจะท�าอาหารไก่ให้เป็นก่อน เพราะปุ๋ยหรืออาหาร
เปลี่ยนการก�าจัดขยะของเมืองวันละ ๒๐ ตันที่เป็นรายจ่ายอันดับ ๒ เป็นต้นทุนที่ท�าให้เกษตรกรไปไม่ถึงไหน คิดดูว่าร้านค้าปุ๋ยอาจม ี
ของงบประมาณกลายเป็นรายรับจากการท�าขยะเป็นปุ๋ยและพลังงาน รายได้เท่ากับเจ้าของสวน ๒,๐๐๐ ไร่ ทั้งท่ีเขามีแค่สองคูหา ท�าไม
ทดแทน ทั้งยังเปิดตลาดนัดสีเขียวให้คนในพ้ืนที่น�าผักปลอดสารเคมี คนแกลงไม่ปลูกพืชผักระยะสั้นที่กินได้ ระยองมีเศรษฐกิจดีอันดับ
มาขายเป็นอาหารสุขภาพ หลังจากเป็นนายกเทศมนตรีมาสามสมัย ๑ ใน ๕ ของประเทศ แตไ่ มม่ ปี ญั ญาพง่ึ พาตนเองเรอ่ื งอาหาร ปลกู กนั
๑๒ ป ี วนั นเี้ ขาสนใจการทา� เกษตรเพอื่ พงึ่ พาตวั เองทางอาหาร และยงั แต่ยางกับผลไม้ ชีวิตคนบ้านผมพอราคายางดี โค่นทุเรียน ปลูกยาง
คงฝนั เหน็ เมอื งทผี่ คู้ นมคี วามสขุ และชวี ติ ทด่ี ี เขาย�้าวา่ ทกุ อยา่ งเกดิ ขนึ้ ราคายางพงั โคน่ ยาง ปลกู ทเุ รยี น ผมตอ้ งการท�าใหเ้ ปน็ ตน้ แบบวา่ ใน
จากการเรยี นรู้และทดลองไปเรื่อย ๆ สวนยางเรากป็ ลกู ผกั ได ้ เลยี้ งไสเ้ ดอื นได ้ อยา่ งทมี่ คี นบอกวา่ จงใชพ้ น้ื ท่ี
สตารต์ ที่ขยะ อันจ�ากัดอย่างไม่มีขีดจ�ากัด เพราะโลกใบเท่าเดิมแต่คนเพ่ิมขึ้น เรา
ต้องเป็นเกษตรเนี้ยบเนยี น เลกิ เป็นเกษตรท่งุ กว้างซงึ่ มีต้นทนุ มหาศาล
ผมเห็นขยะของบ้านเมืองมาเยอะมาก เมืองไทยกินคร่ึงท้ิงครึ่ง
กะหล�่าปลีหัวหน่ึงลอกกันก่ีชั้น ไม่ลอกก็กลัวตายเพราะสารพิษ แล้ว ผกั จากสวนยางของผมขายราคาเทา่ คนอนื่ เพราะถา้ ขายแพงกวา่
ขยะอินทรีย์ที่เน่าได้มีถึงร้อยละ ๓๐ ของขยะทั้งหมด ขณะที่ต้นทุน จะกลายเปน็ ตลาดคนมสี ตางค ์ ผมผลติ เพอ่ื คนฐานใหญท่ ม่ี รี ายไดน้ อ้ ย
กา� จดั ขยะของเทศบาลตกกโิ ลกรมั ละ ๑ บาท ถา้ เราชว่ ยเอาขยะออก ใหเ้ ขาไดบ้ ริโภคของดี
๑ กิโลกรัมก็ช่วยเทศบาลประหยัด ๑ บาท ผมถึงท�าท่ีคัดแยกขยะอยู่ เมืองคารบ์ อนต�า่
ใจกลางเมอื ง ตดั ตอนเสียต้ังแตต่ ้นทาง
ไม่ใช่เร่ืองของเทคโนโลยี ไม่ใช่การเขียนโครงการของบประมาณ
ผมทดลองเล้ียงไส้เดือนเพราะมันเป็น living machine เครื่อง ที่จริงแล้วเป็นเรื่องของปลายปากกับปลายจมูก ปลายปากคืออาหาร
ก�าจัดขยะท่ีมีชีวิต ไม่ต้องเติมน�้ามัน ไม่ต้องเสียบปล๊ัก ไม่ต้องการ กบั น้�า ปลายจมกู คอื อากาศ
แสงสวา่ ง ไมม่ กี ลนิ่ เหมน็ นอกจากกา� จดั ขยะแลว้ ยงั ไดม้ ลู ไสเ้ ดอื นกบั
นา้� มูลไส้เดอื นท�าเป็นปยุ๋ ขายต่อในราคาสูงได้อีก เมืองคาร์บอนต�่ามีหลายองค์ประกอบ แต่เร่ืองหน่ึงท่ีเราไม่ค่อย
คิด คือพ้ืนท่ีอาหารของเมือง ในอดีตกรุงศรีอยุธยามีพื้นที่อาหาร แต่
ฐานคดิ สา� คญั คอื ถา้ คดิ วา่ มนั เปน็ ประโยชน ์ มนั จะท�าประโยชน์ให้ พอโลกเจริญอาหารวิ่งมาหามนุษย์แทนก็กลายเป็นปัญหา ถ้าเมือง
แตถ่ ้าคดิ ว่าเป็นขยะ มนั จะเป็นวิกฤต มีพนื้ ท่ีอาหาร เราจะตรวจสอบไดว้ า่ อาหารสะอาดหรือไมส่ ะอาด และ
ทุกอย่างคือพลังงาน ลดการใช้พลังงานขนส่งอาหารมาจากที่อื่น อย่างกรุงเทพฯ ทุกวัน
ต้องขนผักมาจากภาคเหนือ กี่ร้อยกิโลกว่าจะมาถึง แล้วมันสดไหม
ผมเชอ่ื วา่ ทกุ อยา่ งมพี ลงั งาน ถา้ เราจบั มนั ไปอยทู่ ท่ี ค่ี วรอย ู่ มนั จะ สะอาดไหม สนิ้ เปลืองพลังงานเท่าไร
ส�าแดงพลังออกมา ขยะเอาไปท�าปุ๋ยหมัก มันจะสร้างพลังงานในดิน
ให้ต้นไม้เติบโต น้�าเสียจากขยะน�าไปหมักในบ่อให้ก๊าซมีเทนส�าหรับ ถ้าเราสร้างเมืองให้มีความมั่นคงทางอาหาร ผลท่ีย่ิงใหญ่ท่ีสุด
เตาหุงต้มหรอื เดินเครื่องยนต์ คอื สุขภาพของประชาชน
อยู่เมืองแกลง
ถ้าเราออกแบบกระบวนการจัดการขยะ เราจะได้ทั้งปุ๋ยและ
แหล่งพลังงาน คือก๊าซธรรมชาติ ถามว่าท�าไมเราต้องไปเจาะกลาง ผมเคยท�าโรงเรียนของเทศบาลชื่ออยู่เมืองแกลงวิทยา สอนให้
อ่าวไทย โลกมันเจ็บเพราะการเจาะขุดสูบดูดน่ีละ ท้ังท่ีก๊าซธรรมชาติ เด็กรู้จักบ้านเมืองของตัวเอง จะเรียนสูง ๆ แค่ไหนแล้วก็ต้องกลับมา
อยรู่ อบตวั เรา อยูท่ เี่ ราจะน�ามาใชป้ ระโยชน์ ชว่ ยกนั พฒั นาบา้ นเมอื ง ผมเชอื่ วา่ ไมม่ ใี ครรกั บา้ นเทา่ คนทเ่ี กดิ ในพนื้ ท่ี
น้ัน คนท่อี นื่ เขาแคม่ าหาสตางค์
มีนาคม ๒๕๕๘ 97